ดร.แสงเทียน วิเคราะห์รูปแบบ “ประเทศไทย” กับ “โควิด-19” รอบ 2 และรอบ 3 จะตามมาติดๆ

0

ยื้อได้สุดเท่านี้!?! ดร.แสงเทียน วิเคราะห์รูปแบบ “ประเทศไทย” กับ “โควิด-19” รอบ 2 และรอบ 3 จะตามมาติดๆ!!

โควิด-19 รอบ 2 ในไทยชะลอมาได้ไม่ถึงช่วงวัคซีนก็มาเสียก่อน
รอบ 3 มักสูงกว่าแต่ไทยน่าจะยืดไปถึงช่วงมีวัคซีนได้แล้ว
รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา อาจารย์ด้านเวชระเบียน คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
และประธานยุทธศาสตร์วิจัยสถาบันทิศทางไทย
(20 ธันวาคม 2563)

จากกรณีที่มีการเกิดการระบาดของการติดเชื้อโควิด-19 ในรอบที่ 2 จริงแล้วในประเทศไทยในวันที่ 17-19 ธันวาคม ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากการตรวจเชิงรุกหลังจากพบรายแรกในวันที่ 17 และพบว่าในวันที่ 19 ธันวาคม พบอีกในจำนวน 516 และ พบว่ามีการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกจำนวน 32 ราย
จากการวิเคราะห์รูปแบบของการแพร่ระบาดของการติดเชื้อนี้ในประเทศที่นำมาเทียบเคียงกับประเทศไทย คือประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ พบดังแสดงในรูป

ซึ่งจะเห็นว่าประเทศไทยสามารถยืดระยะเวลาของการแพร่ระบาดรอบที่ 2 มาได้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ในช่วงที่ผ่านมาได้คำนวณไว้ว่าน่าจะอยู่ในช่วงกรกฎาคม – กันยายน 2563 แต่ก็สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรอบที่ 2 มาได้อย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 19 ธันวาคมก็เกิดขึ้นจนได้

ประชาชนไม่จำเป็นต้องไปถกเถียงกันเรื่องของต้นตอ เพราะในการระบาดรอบที่ 2 จะมีความยุ่งยากลำบากในการหาต้นตอของการระบาดที่แท้จริง ขอให้เป็นหน้าที่ในการค้นหาจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขไป สิ่งที่ต้องดำเนินการคือการป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงการเดินทางในพื้นที่เสี่ยง การใส่หน้ากากอนามัยต้อง 100% ตลอดเวลาที่ออกจากที่พัก การปิดเมืองที่มีการพบการระบาดรอบ 2 ก็ต้องทำอย่างจริงจัง ขอให้ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ส่วนจังหวัดที่ล้อมรอบเป็นจังหวัดในกลุ่มที่ 1 คือ สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กรุงเทพมหานครนครปฐม และราชบุรี ต้องมีการยกระดับมาตรการป้องกัน สาธารณสุขทุกภาคส่วนรวมถึง อสม. ต้องเฝ้าระวังกลุ่มที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยงอีกอย่างจริงจัง และในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในข่ายสงสัยในการระบาดครั้งนี้ทุกจังหวัดในประเทศก็ต้องจับตาการเดินทางเข้าพื้นที่เป็นกรณีพิเศษ ที่จะต้องให้กักตัวเหมือนที่เคยทำได้ผลมาแล้วกับการดำเนินการมาในช่วงการแพร่ระบาดรอบแรกของประเทศ

ในการระบาดรอบที่ 2 ก็ต้องช่วยกันเพราะถ้ามีจำนวนหลักร้อยในทุกๆ วัน ไม่ถึง 2 เดือนประเทศเราก็จะเจอกับวิกฤติของการรักษาพบาบาลผู้ติดเชื้อเหมือนในหลายๆ ประเทศที่เจอ ส่วนการระบาดรอบที่ 3 ซึ่งเมื่อพิจารณาดูจากทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีก็จะมีเป็นช่วงที่ 3 แล้วและมีจำนวนมากกว่าในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 และยังเผชิญการเพิ่มขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ส่วนของประเทศเรานั้นเมื่อทำการยืดระยะเวลารอบที่ 2 มาได้แล้วก็จะทำให้ระยะที่ 3 ไปอยู่ในช่วงของการเริ่มมีการฉีดวัคซีน ก็อาจส่งผลให้ระยะที่ 3 ในประเทศไทยปลอดภัยมากขึ้น
ดังนั้นทุกคนจึงต้องสู้กับการระบาดรอบที่ 2 นี้จนสุดความสามารถ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถชนะกับการระบาดที่จะคร่าชีวิตของประชาชนไทย ช่วยกันร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ อย่าถอยโดยเด็ดขาด