สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ฟันธง คนเสื้อแดง แตกกันยับ จับตารอศึกใหญ่ระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร -จตุพร พรหมพันธุ์
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย ได้กล่าวในรายการสนธิญาณ ชัด ครบ จบ จริง ถึงกรณีคนเสื้อแดง ที่กำลังจะแตกกัน และมีศึกใหญ่ระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร และจตุพร พรหมพันธุ์ โดยกล่าวว่า
มันส์ขึ้นทุกวัน สำหรับศึกสายเลือดของคนเสื้อแดง นปช. และพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะมวยคู่หลักแต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซัดกันอ้อมไปอ้อมมา ก็คือ ทักษิณและจตุพร วันหนึ่งเราจะได้เห็นคู่นี้ซัดกันแน่ วันนั้นแหละ สังคมไทยจะได้รับรู้ความลับอีกมากมายที่ทั้งสองฝ่ายกุมไว้ ล่าสุด นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ ด่าจตุพร แม้จะไม่ปรากฎชื่อก็ตาม
เพชรวรรต เป็นแกนนำเสื้อแดงภาคเหนือที่สำคัญคนหนึ่ง คำแถลงที่ออกมาด่าจตุพรว่า จากการลงพื้นที่ ตนได้รับทราบถึงความอึดอัดของคนเสื้อแดง ที่เป็นคนรักอุดมการณ์ ไม่เนรคุณนาย และไม่ขายอุดมการณ์ แต่วันนี้ผู้ปราศัยรายหนึ่งพูดพาดพิงถึงพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และผู้ใหญ่ที่คนเสื้อแดงทั้งประเทศเคารพนับถือ คนเสื้อแดงฝากมาบอกว่า คนที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา คบไม่ได้ ตนอยากฝากถึงบุคคลคนหนึ่งว่าถ้าหมดสิ้นอุดมการณ์ อย่ามาทำลายพรรคที่เคยอาศัยมาก่อนและอย่ามาต่อว่าผู้ใหญ่ของพรรค ไม่มีชื่อจตุพร แต่จะเป็นใครไปไม่ได้ เพราะตอนนี้จตุพร กำลังซัดเจ๊คนหนึ่ง ซึ่งยังไม่เปิดเผยชื่อ แต่ก็เป็นใครไปไม่ได้ เป็นที่รับรู้กันว่า เป็นเจ๊แดง เยาวภา แน่นอน
เราต้องกลับมาดูว่า วันนี้เพชรวรรต ขึ้นมามีที่ยืนทางการเมืองมาเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อชาติได้ จตุพรก็มีส่วน เพชรวรรตจะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ตามแต่ เพชรวรรต สังกัดพรรคเพื่อชาติ การเกิดขึ้นของพรรคเพื่อชาติ คนที่ทำให้พรรคเพื่อชาติเกิดขึ้น เดินคู่กันตั้งแต่หาเสียงในวันแรกก็คือ จตุพร พรหมพันธุ์ และยงยุทธ ติยะไพรัช มีสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เจ้าของห้างอิมพีเรียล กระเป๋าเงินกระเป๋าทองและเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เป็นผู้ขับเคลื่อนพรรคเพื่อชาติ ชัดเจนว่า พรรคเพื่อชาติอยู่ภายใต้นโยบายแตกแบงก์พันมาเป็นแบงก์ร้อย กลุ่มเป้าหมายเล็งไปที่กลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้น ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อชาติ ที่ได้ 5 คนมาเป็นสส.พรรคเพื่อชาติในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 419,393 คะแนน ได้สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 5 คน ทั้ง 5 คน เราจะเห็นได้ชัดว่าต่างเป็นตัวแทนของกลุ่มต่างๆ คนแรกคือ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประวัติไม่ธรรมดา เป็นเจ้าของห้างอิมพีเรียล มีอุดมการณ์มาทางคนเสื้อแดง ผ่านมาเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเหรัญญิกพรรคพลังประชาชน หัวหน้าพรรคเป็นท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนให้พรรคขับเคลื่อนไปได้ แต่คนที่เดินลงสู่กระบวนการการจัดตั้ง หาเสียงและทำงานก็คือ ยงยุทธ ติยะไพรัช กับจตุพร พรหมพันธุ์
ดังนั้นเราจะเห็นว่า ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 2 ของพรรคเพื่อชาติ ชื่อ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ลูกสาวของยุงยุทธ ติยะไพรัช คนๆนี้ไม่ธรรมดา ระหว่างที่ลูกสาวมาเป็นปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 2 จจะย้อนกลับไปดูภาพอีกภาพหนึ่งคือพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบไป อย่าลืมว่าพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบไปก็เป็นหนึ่งที่อยู่ภายใต้นโยบายแตกแบงก์พันมาเป็นแบงก์ร้อย เพราะพรรคไทยรักษาชาติ มีเลขาธิการพรรคชื่อ มิตติ ติยะไพรัช ลูกชายของยงยุทธ ถ้าบุคคลคนนี้ไม่มีความสำคัญ ลูกของตัวเองไม่สามารถไปควบคุมพื้นที่ได้ทั้งสองพรรค ถ้าคนๆนี้ไม่ได้รับความเชื่อถือจากทักษิณ ชินวัตร ไม่มีทางที่จะแสดงบทบาทอย่างนี้ได้ และที่สำคัญตัวของเพชรวรรต เติบโตขึ้นมาได้ก็เพราะยงยุทธ ติยะไพรัช จากนักธุรกิจที่ล้มลุกคลุกคลาน ยงยุทธสนับสนุน ส่งเสริมให้กลายเป็นศูนย์แพร่กระจายข่าวสารของคนเสื้อแดง กลายเป็นแกนนำคนเสื้อแดงสายห้าว สมัยปี 2549 พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นไปหาเสียงที่เชียงใหม่ ก็ถูกไล่เหมือนที่ธนาธรโดนอยู่ตอนนี้ เพชรวรรตเป็นคนขับเคลื่อน แต่อยากจะย้อนรอยให้ฟังว่า ขนาดแสดงบทบาทอย่างนั้น แต่ในทางการเมืองในการเลือกตั้งปี 2554 เพชรวรรตเคยออกมาโวยวาย เพราะพรรคเพื่อไทยไปจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ ให้อยู่ในลำดับที่ 86 แบบนี้คนเสื้อแดงทนไม่ได้ แต่ครั้งนี้ได้เป็นสส.สมใจ เพราะปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 3 ของพรรคเพื่อชาติ คือ อารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง เป็นพี่ที่มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับจตุพร เรียกว่าตายแทนกันได้ หอบหิ้วกันมาตั้งแต่รามคำแหง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ทั้ง 5 เป็นตัวแทนของยงยุทธ เป็นตัวแทนของจตุพร เป็นตัวแทนของทักษิณ และสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เจ้าของทุน
การเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ในปี 2562 ในวันที่ 24 มีนาคม ผ่านมาเดือนเศษๆ ได้เกิดปรากฎการณ์อันไม่ธรรมดาเกิดขึ้น ก็คือ จตุพรประกาศย้ายที่ทำการ นปช. ซึ่งเคยตั้งมาอย่างยาวนานด้วยการอุ้มชูของ สงคราม ว่าต้องออกจากห้างอิมพีเรียลแล้ว พร้อมทั้งประกาศปิด พีซทีวี การประกาศปิดพีซทีวีและประกาศย้ายที่ตั้งของ นปช. ซึ่งมีจตุพรเป็นประธานอยู่ มีคำถามมากมายว่า แตกกันแล้วหรอ มีอะไรเกิดขึ้น จะแตกไม่แตกก็มีเรื่องให้ย้อนรอย
ย้อนไปหลังจากการเลือกตั้ง ถัดมาอีก 1 เดือน ก่อนที่จตุพรจะประกาศย้ายออกจากอิมพีเรียล ปรากฎว่าในวันที่ 23 เมษายน ได้มีข่าวสารหลุดออกมาว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน เนื่องในโอกาส วันสงกรานต์ปรากฎว่าณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง และคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้หอบหิ้วกันไปรดน้ำดำหัว วีระกานต์ มุสิกพงศ์ น่าแปลกใจว่าวันนั้น จตุพรไม่ได้ไปด้วย ทั้งๆถ้าเราย้อนไปทุกครั้งในวันสงกรานต์ จตุพร ณัฐวุฒิ เหวง ธิดา วีระกานต์ จะจัดงานสงกรานต์และรดน้ำดำหัวกันมาตลอด แต่ปีนี้ไม่มีจตุพร และถ้าไปดูคำให้สัมภาษณ์ของวีระกานต์ ก็จะชัดเจนว่า ผมจะไม่ลืมก็คืออาจารย์ธิดา ถาวรเศรษฐของเรา อาจารย์ธิดามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการที่ทำให้เราได้สืบสานมาอย่างไม่ขาดสายนับตั้งแต่เราได้ออกท้องสนามหลวงครั้งแรก ต่อจากนั้นก็ได้มีบทบาทเรื่อยมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้ส่งมอบภารกิจอันหนักนี้แก่ใครเป็นการเฉพาะ เพราะฉะนั้นผมขอความร่วมมือพวกเราทั้งหลายให้ความร่วมมือกับ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ซึ่งจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างพี่น้องทั้งหลายกับนปช.ที่ยังเหลืออยู่ ทำงานตลอดไปในวันข้างหน้าทั้งในอนาคตอันใกล้และในระยะทางอันไกล
คำให้สัมภาษณ์ของวีระกานต์ในครั้งนี้ ชัดเจนว่า ตัดจตุพรออกจากระบบ บอกว่าธิดาเป็นคนเชื่อมโยง เป็นคนทำงานอยู่ นปช.ให้เชื่อมกับธิดา ยิ่งอีกท่อนถัดมายิ่งชัด ก็คือ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งเป็นความพยายามส่วนหนึ่งของอ.ธิดาในการที่จะปลูกฝังรากลึกถึงแก่นแกนของชีวิตจิตใจของพี่น้อง และฝังรากลึกเป็นแก่นแกนของฝ่ายประชาธิปไตยของประเทศไทย สถานที่นี้ก็จะเป็นที่ใหม่ที่จะรวมศูนย์พวกเราให้มาพบปะกันเช่นที่ได้เคยกระทำกันมาเป็นเวลาหลายปี ผมและท่านเลขาธิการ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตลอดจนคุณหมอเหวง โตจิราการ ยังไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ไปเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด เรายังเป็นนปช.อยู่เช่นเคย ดังนั้น จตุพร ไม่อยู่ในงานวันนั้น คนที่อยู่ในงานยังไม่เปลี่ยนแปลงแสดงว่ามีการกล่าวหาว่า จตุพรเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่
นั่นคือปรากฎการณ์ที่ชัดเจนตั้งแต่วันนั้นว่า นปช. คนเสื้อแดง แตกยับกันแล้ว นปช.ต่อเนื่องมาจากที่วีระว่าตอนท้องสนามหลวง คือเมื่อก่อนเป็น นปก. และแปลงชื่อว่าเป็นนปช. หลังจากที่ได้เปิดตัวขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่สนามราชมังคลาฯ เป็นครั้งแรกที่เสื้อแดงเต็มพื้นที่ และเคลื่อนไหวในปี 2552
แตกยับไปกลับมาในปี 2553 จนเป็นชนวนเหตุให้มีการบาดเจ็บล้มตายนับร้อยคน ใครผิดใครถูกในทางการเมืองมันยากที่จะคาดเดา แต่การเมืองเป็นเรื่องปกติว่า ทุกเรื่องมีผลประโยชน์ตั้งแต่ความยึดมั่นถือมั่นส่วนตัว อำนาจ ความโด่งดัง ความยิ่งใหญ่ จนไปถึงผลประโยชน์ที่เป็นเงินทอง
วันนี้ ตำแหน่งประธาน นปช.อยู่ที่จตุพร ตำแหน่งเลขาธิการ นปช. อยู่ที่ณัฐวุฒิ ซึ่งติดคุกอยู่ ความแตกแยกที่อึมครึมคนภายนอกไม่รู้ หลังเลือกตั้งในปี 2562 มาจนถึงวันนี้ที่แตกประทุขึ้นจากการเลือกนายก อบจ.ที่เชียงใหม่ จะไม่ใช่ศึกสุดท้าย จะต้องมีศึกใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน จากการที่เพชรวรรต ออกมาทิ่มแทงจตุพรในวันนี้ ความจริงเพชรวรรตไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจตุพร เพราะคู่ต่อสู้ของจตุพรที่แท้จริงคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ออกมาทิ่มแทงจตุพร อยากย้ำให้นึกถึงวันที่ 28-29 มีนาคม 2553 ระหว่างยังมีการเจรจากัน ระหว่างรัฐบาลนำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กับอีกฝั่งคือ จตุพร พรหมพันธุ์ และแกนนำนปช. ระหว่างพักการประชุม จะมีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามาคุยกับจตุพรเป็นระยะๆ โทรศัพท์ลึกลับนั้นจะเป็นใคร ไม่รู้ อาจจะเป็นของทักษิณก็ได้ ในการชุมนุมของนปช.จะเกิดการรัฐประหารกันในกลุ่ม นปช. โดยพลตรีขัตติยะ หรือเสธ.แดง ได้ออกมาโพสต์ ปรากฎว่าเสธ.แดงโดนยิงดับดิ้นไปเสียก่อน การชุมนุมจึงดำรงไปตามปกติ และจบสิ้นลงในวันที่ 19 พฤษภาคม
มาถึงวันนี้ ก็เรียนย้ำว่า สถานการณ์การเมือง วันนี้มันไม่ได้อยู่ที่คนเสื้อแดง ไม่ได้อยู่ที่คนเสื้อเหลือง ไม่ได้อยู่ที่ นปช. ไม่ได้อยู่ที่พันธมิตร ไม่ได้อยู่ที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ได้อยู่ที่ใคร การเมืองวันนี้มันไปลึกจากเครือข่ายที่ปลุกเร้าให้ต่อสู้กับสถาบันพระมหากษัตริย์และแน่นอน ชัดเจน บทบาทของพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนม็อบและการปรากฎตัวขึ้นของการ์ดเสื้อแดงที่เข้าไปดูแลม็อบอยู่ในขณะนี้ และคำประกาศของแกนนำอย่างเพนกวินที่บอกว่าจะใช้การ์ดมืออาชีพ ทักษิณเข้าควบคุมม็อบ ดังนั้น คู้ความขัดแย้ง คู่ต่อสู้ในทางการเมืองวันนี้ไม่ได้เป็นแบบเดิม ใครมีบุญคุณกับใคร ใครทรยศกับใคร ใครหักหลังใคร วันนี้จะมีเรื่องชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักยึด เราจะได้เห็นปรากฎการณ์บางปรากฎการณ์ที่อาจจะทำให้ทักษิณ ชินวัตร ถึงกับอึ้งก็ได้