ดร.เวทิน ชาติกุล ผอ.สถาบันทิศทางไทย ชำแหละ “แก๊งตี๋ทอน” คบ โซรอส ฝรั่งทำลายชาติ หลังทักษิณไม่ช่วย !?!
จากกรณีที่การเมืองไทยกลายเป็นประเด็นร้อนกลางสภาเยอรมัน เมื่อ ส.ส. ลุกถามรัฐมนตรีต่างประเทศ กลางสภาว่าเหตุใดจึงปล่อยให้กษัตริย์ไทยใช้พระราชอำนาจทางการเมืองในดินแดนเยอรมนี พร้อมกดดันรัฐบาลเยอรมันให้ผลักดันสหภาพยุโรประงับเจรจาการค้ากับรัฐบาลไทยที่ขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย ทางด้าน ดร.เวทิน ชาติกุล ผอ.สถาบันทิศทางไทยได้พูดถึงกรณีของจอร์จ โซรอส นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี โดยมีการเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวและกลุ่มการเมืองในประเทศไทย ในรายการ TALK2WAY ของทางสถาบันทิศทางไทยว่า
สำหรับเรื่องที่น่าจับตามองในขณะนี้ก็คือ จะมีการร่วมตัวขับเคลื่อนขบวนแรลลี่ แสดงเจตนาเชื้อเชิญ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้ออกจากประเทศไทย โดยทางกลุ่ม ศ.ป.ป.ส. ซึ่งได้มีการแถลงว่า ครอบครัวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาศัยแผ่นดินไทย เพื่อทำมาหากินจนร่ำรวย แต่ทำไมถึงแสดงการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังจากนั้น ก็ได้มีความชัดเจนแล้วว่า นายธนาธรต้องการที่จะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จากการพูดในงานรำลึก 6 ตุลา ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายธนาธรไม่เคยแสดงตัวตน แต่ก็มีบทบาทในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งก็มีการคาดเดากันว่า นายธนาธรอาจจะอยู่เบื้องหลังกระแสการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้กลุ่ท ศ.ป.ป.ส. จึงคิดว่า นี่คือเหตุผลที่ นายธนาธรควรออกไปให้พ้นแผ่นดินไทย อย่างไรก็ตาม ในการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ศ.ป.ป.ส. ก็เริ่มมีหลายกลุ่มให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้พฤติกรรมของนายธนาธร ที่ได้มีการนำเครือข่ายองค์กรต่างชาติเข้ามากร่อนเซาะ ทำลายประเทศชาติ แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นที่ฮ่องกงโมเดล อย่างนายโจชัว หว่อง ที่ได้นำลูกสหรัฐอเมริกาเข้ามาเคลื่อนไหว ตั้งกลุ่มประท้วง สร้างความรุนแรง จนตอนนี้นายโจชัว หว่อง ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม แน่นอนว่า การที่ต่างชาติเขข้ามาแทรกแซงในประเทศไทย ก็เพียงเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง
สำหรับพฤติกรรมของนายธนาธร อย่างที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า นาายธนาธร ต้องการที่จะปฏิรูปสถาบัน ซึ่งมีความชัดเจนจากโครงข่ายที่ต้องการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกมาหนุนนายธนาธรอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่า
1. โครงข่ายที่ต้องการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการเปิดเผยชัดเจนว่า ได้รับเงินมาจากนายจอร์จ โซรอส มาอย่างเปิดเผย
2. เพนกวินและอดีตทูตสหรัฐ ซึ่งก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
3. นายฟอร์ด ทัดเทพ หนึ่งในแกนนำเยาวชนปลดแอก เป็นบอร์ดของแอมเนสตี้ ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก NED ของอเมริกา
4.นายอานนท์ นำภา เริ่มทำงานเป็นทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ภายใต้เงินทุนที่สนับสนุนมาจาก NED
ทั้งหมดนี้คือความเชื่อมโยงที่แสดงให้เห็นว่า ต่างชาติได้เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย นี่คือพฤติกรรมของเครื่องข่ายของนายธนาธร ซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์กรต่างชาติ
นอกจากนี้ พฤติกรรมของนายธนาธร เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 นายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ส พูดบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยอ้างว่า ประชาชนคนไทยกำลังไม่พอใจกับการจัดงบประมาณในส่วนทีเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งๆที่ไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้น เกิดขึ้นในประเทศไทยเลย แต่เป็นเพียงสิ่งที่เกิดจากการสร้างกระแสจากลุ่มคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล นายธนาธรยังได้เปิดเผยเอกสารงบประมาณกับไฟแนนเชียลไทม์สด้วย และบอกว่าจะมีการพูดถึงเรื่องงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันบนเวที แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ นายอานนท์ นำภา ได้เอาเอกสารดังกล่าวอกมาเผยแพร่บนเฟสบุ๊ค นี่คือพฤติกรรมที่ใช้ต่างชาติดิสเครดิต มาเล่นงานประเทศไทย และต่อมาวันที่ 24 กันยายน คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วางหมากประกาศิตโดยการก้มกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายธนาธร ได้เข้ารับเชิญไปพูดในเวทีประชาธิปไตย ซึ่งจัดโดยกลุ่ม NED จัดขึ้นมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งในงานดังกล่าว จะมีการเชื้อเชิญคนที่มีบทบาทในจุดยุทธศาสตร์หลักๆของอเมริกาเข้าไปพูดคุย แต่นายธนาธร ได้รับเชิญไปร่วมพูดด้วย แต่ในครั้งนี้ไม่ได้มีการพาดพิงถึงสถาบันอย่างโจ้งแจ้ง แต่ก็มีการพูดเป็นนัยๆว่า ให้ประชาชนออกมาต่อสู้ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส.ส. พรรคกรีน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเยอรมัน ได้มีการอภิปรายและได้กระทบถึงสถาบันไทย โดยมีการอภิปรายถึงสถาบันไทย แต่ได้ถูกจับโป๊ะว่า ข้อมูลที่ส.ส.คนดังกล่าวพูดถึงนั้น เป็นการบิดเบือนข้อมูลและไม่เป็นความจริง ซึ่งทางด้านนักเขียนดังอย่างปราชญ์ สามสี ยังได้ออกมาพูดว่า พรรคกรีน เป็นเพียงหุ่นเชิดของโซรอส เท่านั้น เพราะได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิของโซรอส ซึ่งมองว่า พรรคนี้ไม่ได้มีสถานะที่แตกต่างจากนายโจชัว หว่องเลย ชัดเจนแล้วว่า บุคคลเหล่านี้ทำงานกันเป็นขบวนการและมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อปลุกปั่นให้คนไทยเข้าร่วมม็อบ 14 ตุลา เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมได้มีการอภิปรายในสภาเยอรมัน และต่อมาวันที่ 9 ตุลาคม ทางคณะก้าวหน้าได้มีการเปิดประเด็นถึงกรณีดังกล่าว จากนั้น นายอานนท์ นำภา ก็ได้นำเรื่องดังกล่าวมาขยายบนเพจเฟสบุ๊คเช่นกัน
ซึ่งต่อมาทางพรรคเพื่อไทยได้มีการส่งสัญญาณเทม็อบ 14 ตุลา และกลุ่มหมู่บ้านเสื้อแดงภาคใต้ก็ได้ส่งสัญญาณจะไม่เข้าร่วมม็อบดังกล่าว ในขณะที่กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่จะมาเข้าร่วมม็อบ ทั้งนี้ก็ต้องจับตามมองว่า พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนแนวมาจงรักภักดีหรือไม่ แต่ดูจากภาพรวมแล้ว สายสัญญาณจากเพื่อไทย จากทักษิณ จากคุณหญิงพจมาน ดูท่าทางว่า ไม่ส่งตรงลงมา แต่โซรอสมาเอง ยิ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทย คนไทยได้ใช้องค์ต่างชาติเข้ามาวุ่นวายในเรื่องของการปฏิรูป ล้มล้างสถาบัน
สำหรับประเด็นดังกล่าว นายสมภพ พอดี ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัครทูตเยอรมัน อธิบายชี้แจง ข้อเท็จจริงเรื่องการยุบพรรคอนาคตใหม่หรือเรื่องของพรรคไทยรักษาชาติ โดยอธิบายว่าเป็นการหลักการภายใต้ระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ต้องวางตนอยู่เหนือการเมือง ไม่สามารถลงมาเล่นการเมืองได้ ในขณะเดียวกัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ. อดีตรองผอ.ข่าวกรอง ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัครทูตเยอรมัน ให้ไปบอก ส.ส.พรรคกรีนหน่อยว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น กระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศด้วย