ประเด็น “แจกกล้วย” ของรุ้ง แกนนำปลดแอก ถูกตีไปจนฟุ้งกระจาย กระจายจนลืมประเด็นสำคัญ
รุ้ง คือ ผลผลิต และ ผลพวง การศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปฏิเสธ ตรงนี้ไม่ได้
ตอนคดีบอส กระทิงแดง มีอาจารย์ระดับผู้บริหารธรรมศาสตร์ออกมาพูดวรรคทองว่า “ระบบยุติธรรมเป็นแบบนี้จะให้ผมสอนหนังสิอกันอย่างไร?”
ต่อมาเกิดเหตุการณ์ 10 ส.ค. กับ 10 ข้อเรียกร้องของรุ้ง ในนาม “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” มีคนออกมาสวนผู้บริหารธรรมศาสตร์ท่านนั้นว่า “พวกคุณสอนหนังสือกันมาอย่างไร?”
ส่วนตัว ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทบซิ่งในกรณีนี้ เพราะข้อเสนอของรุ้งจะรุนแรงด้วยเนื้อหา แต่ไม่ได้หยาบคาย ถ่อย สถุล
ธรรมศาสตร์มีสิทธิ์ที่จะปลุกฝังความคิดแบบใดแบบหนึ่งตามแนวทางของผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยตราบเท่าที่ประชาคมธรรมศาสตร์และสังคมยังไม่อาจมีข้อปฏิเสธอย่างเป็นเอกฉันท์ “ว่าทำไม่ได้”
แต่กรณี “แจกกล้วย” ให้กับรุ่นพี่อาวุโสอย่างนายหัวชวน ไม่อาจเข้าใจได้แบบกรณี 10 ข้อเรียกร้อง
ผมไม่ใช่คนพูดเพราะ ออกจะหยาบคาย แต่ หยาบคายก็เรื่องหนึ่ง รู้จักกาลเทศะก็อีกเรื่อง
ย้ำว่าของแบบนี้ เรื่องความสัมพันธ์ต่างๆในสังคม ไม่ใช่นิสัยส่วนตัว ไม่ได้มาเองจากอัตวิสัยของบุคคลหนึ่งๆ แต่เกิดจากการอบรมบ่มเพาะ
เป็นเรื่องการเรียนรู้วิธีการที่จะอยู่ในสังคม
ทุกสังคมที่พยายามรักษาความปกติสุขเอาไว้ เรื่องเหล่านี้เรียกว่า “มารยาท”
ผู้ดี ก็มีมารยาทแบบ ผู้ดี บางทีดัดจริต น่ารำคาญ
โจร ก็มีมารยาทแบบโจร มีกติกาในหมู่นักเลง อาจหยาบคาย สถุน ถ่อย แต่ยังรู้จักสูงต่ำ รู้อะไรควรไม่ควร
สังคมที่ไม่มีกฎ กติกา มารยาท ใดๆเลย นั่นไม่ใช่สังคมมนุษย์ นึกอยากจะพ่นอะไรก็พ่น ไม่ต่างจากสังคมที่นึกอยากจะเอากันตรงไหนก็เอากันตรงนั้น
ที่วิปริตก็คือ เมื่ออยากคิดว่าการด่าคนว่า “ควย” ออกสาธารณะ ไม่ใช่คำหยาบ ก็สรรหาวิธีอธิบาย เอออวยกันไป สร้างความบิดเบี้ยวซ้อนพฤติกรรมตามอำเภอใจ
(ผมสงสัยว่า ถ้า “รุ้ง” ไปแจกกล้วยบุพการีของ ” อดีตนักข่าวกับอดีตผู้บริหารสำนักข่าวใหญ่แห่งหนึ่ง” แบบเดียวกัน พวกเขาจะบอกว่า ไม่หยาบ อยู่อีกหรือไม่?)
ไม่ใช่แค่นี้ ที่ผ่านมาในธรรมศาสตร์ โดยกลุ่มคนที่อ้างตนว่าต่อต้านเผด็จการ กลับทำตัวเป็นคนเถื่อน ทำผิดกฏหมาย ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศแล้วสร้างวัฒนธรรมกดดันเหยื่อให้ปิดปากไม่ให้ออกมาเปิดโปง นักข่มขืน(rapists) ในมหาวิทยาลัย หรือปกป้องคนผิด (แบบที่เกิดขึ้นมนพรรคโดมปฏิวัติ ของ เพนกวิน)
ต้องขอโทษ กับ พี่ น้อง มิตรสหาย ที่รักธรรมศาสตร์ทุกท่าน
แค่ธรรมศาสตร์เป็นแหล่งซ่องสุมอาจารย์ต่อต้านสถาบันฯนั่นก็หนักหนาแล้ว เพราะแทนที่จะสอนให้วิพากษ์ตามข้อเท็จจริงด้วยข้อมูลสองด้าน กลับเอาวิชาการมาบังหน้า สร้างวาทกรรมมาบิดเบือนข้อเท็จจริง ปลุกฝังความคิดที่เริ่มมาจากอคติของตัวอาจารย์เองไปสู่เด็ก
เรื่องแจกกล้วยนี่หนักกว่า ย้ำว่าไม่ใช่ “สันดานส่วนตัว” แต่เป็น สันดานที่เกิดจากการอบรมบ่มเพาะ
และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะที่เป็นต้นทาง เป็นที่ให้การศึกษากับ รุ้ง จะปฏิเสธตรงนี้ได้หรือ
ธรรมศาสตร์ เสื่อมทรุด ต่ำทราม ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?
ชาวบ้านเขาจะถาม คุณสอนหนังสือกันออกมาอย่างไร ให้ลูกศิษย์คุณออกมาไล่แจกกล้วยชาวบ้านชาวช่อง
สอนคน ขัดเกลาคนให้เป็นคนที่สูงส่งขึ้นไม่ได้ กลับ สอนคน ให้เป็นเหมือน หมาบ้า ไล่เห่าไล่กัดคนไปทั่ว
“ธรรมศาสตร์” ยังมีหน้าสอนหนังสือกันอยู่อีกหรือ?