ในรายการ “ทิศทางไทยในช่วงเวลา 00.00 กับ สนธิญาณ” ทางช่องสถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ผ่านทางยูทูป ทางด้าน “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม”ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์การเปิดให้บริการของร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 แต่กลับไม่มีจุดคัดกรองผู้เข้ามาใช้บริการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19
คำถาม :มีคนวิจารณ์ว่าทำไม 7-11 ถึงมีอำนาจมากกว่ารัฐบาลเรื่องนี้จริงหรือไม่?
สนธิญาณ : อันนี้ตอบยาก จะบอกว่า 7-11มีอำนาจเหนือกว่ารัฐบาลก็ใช่ที่ ลุงตู่เขาก็เป็นคนที่จะยอมใครง่ายๆ แต่ข้อเท็จจริงอันหนึ่งที่ปรากฎเสมอมาในทางลับ นั้นก็คือกลุ่มบริษัทกลุ่มนี้ให้การสนับสนุนกลุ่ม หรือ พรรคการเมืองทุกพรรค ย้ำว่าทุกพรรคมากน้อยแล้วแต่ เพราะว่าใครจะไปเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เป็นพวกของเขาหมด ปรากฎการณ์ที่เห็นได้คือลูกเขยบ้าง ญาติสนิทมิตรสหายบ้าง เครือข่ายลูกน้อง บริวารที่ไปมีตำแหน่งสำคัญ ๆ อยู่ในรัฐบาลต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลนี้ เพราะฉะนั้นจะถามว่าทีอำนาจเหนือรัฐบาลหรือไม่ ตนก็เป็นคนเชียร์ลุงตู่คิดว่าไม่น่าจะมีเหนือ แต่หลายปรากฎการณ์ทำให้น่าข้องใจสำหรับประชาชนเหมือนกัน
คำถาม : ตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นในสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มที แต่ดูเหมือนว่า 7-11 ยังทำตัวเหมือนว่าไม่ทีอะไรเกิดขึ้น
สนธิญาณ : ก็เหมือนกรณีนี้ ที่ทำให้ประชาชนต้องคิดเพราะว่าในขณะที่มีการสั่งปิดในเขตกทม. ตลาดสดให้ขายเฉพาะอาหาร ปิดห้างให้ขายเฉพาะอาหาร ซูเปอร์มาเก็ตร้านเสื้อผ้าปิด ร้านเครื่องสำอางค์ปิด เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า 7-11 ไม่ใช่ซูเปอร์มาเก็ตที่ขายของสด แต่คือร้านสะดวกซื้อ มีทุกอย่าง มีหนังสือ เครื่องสำอางค์ มีของต่างๆ เหมือนห้างสรรพสินค้าแล้วปิดห้างสรรพสินค้า ไม่ปิด 7-11 คนก็คิดได้ ยิ่งสำคัญที่ตลาดสด แผงร้านเสื้อผ้า ร้านเข็มขัด ร้านรองเท้ามือ2 สั่งปิดเขาหมด แบบนี้คิดได้หรือไม่ ? คิดว่าคุณไม่รอบครอบ แล้วคิดว่า7-11เป็นหน่วยบริการประชาชน กลัวว่าไปปิดแล้วจะลำบาก สิ่งนี้ทำให้คนถาม
และที่น่าสนใจในสถานการณ์แบบนี้ 7-11 ประกาศรับคน20,000คน เพื่อส่งสิ้นค้าไปตามบ้าน delivery ไม่จำเป็นต้องไปพึ่ง line man ไม่จำเป็นต้องพึ่งบริษัทอื่น ก็ทำของตัวเอง แต่ทำไมถึงไม่ยอมในการที่จ้างคน ไปทำการคัดกรอง ซึ่งทุกที่ที่เป็นห้องแอร์ก่อนเข้าต้อง ตรวจวัดอุณหภูมิ เป็นต้น
คำถาม : ในเมื่อ 7-11ประกาศรับคน 20,000 คน มาเพื่อ delivery แต่ทำไมในการจัดการเรื่องการตั้งจุดคัดกรองคนที่เข้ามามน7-11 ทำไมตรงนั้นเขาถึงจัดการไม่ได้
สนธิญาณ : วันนี้ 7-11มีประมาณ 9,700สาขา ในประเทศ รับคนมาคัดกรองวัดอุณหภูมิ มายืนข้างหน้า ซึ่งเปิด 24ชม. ต้องรับคน 3 กะ เท่ากับประมาณ30,000 คน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต่องเสียเปล่าๆ แน่นอนวันนี้ 7-11จึงพยายามออกมาบอกว่า วันนี้เขาทำตามกฎเกณฑ์ ระเบียบทุกอย่าง แต่กฎเกณฑ์ ระเบียบที่ว่า แต่ไม่มีการคัดกรอง ต้องอย่าลืมว่าคนที่ติดไวรัส แต่ยังไม่ปรากฎตัว เดินไปจับสินค้าทั้งหลายได้
มาคิดกันว่า 7-11ที่มีอยู่9,700สาขา เฉลี่ยมีคนเข้าสาขาละเกือบ1,200คน เฉลี่ยวันๆ มีคนเข้า7-11เกือบ 12ล้านคน ..นี่เป็นประเด็น ไม่ได้หมายความว่าทุกสาขาจะมีโอกาส แต่คนที่เข้าไปไม่รู้ว่าคนไหนยังไม่แสดงอาการ
น่าสนใจถ้าเขาต้องรับคนมาทำ 30,000คน เดือนหนึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ให้รู้อย่างหนึ่ง 7-11วันนี้ราคาหุ้นในตลาด คือ60บาท (ข้อมูล 30มี.ค.63) มีหุ้นอยู่ในตลาดประมาณเกือบ 9พันล้านหุ้น มีมูลค่าประมาณ 540,000 ล้านในตลาดหลักทรัพย์ เยอะขนาดนี้ ยามที่สังคมวิกฤต ช่วยกันรับผิดชอบ ข่วยกันดูแลสังคม จะเป็นอะไร วันก่อนประกาศสร้างโรงงานทำหน้ากาก ก็ติดตามข่าวอยู่ ไม่รู้เสร็จหรือไม่ ไปถึงไหน. แต่ก่อนที่จะไปพูดเรื่องโรงงานสร้างหน้ากาก ต้องรับผิดชอบเรื่อง7-11 อยากเปิดต่อก็ควรที่จะมีจุดคัดกรอง เพราะเป็นห้องแอร์ จะบอกว่าสาขาเยอะ คนอื่นสาขาน้อย ก็เพราะว่าสาขาเยอะจึงมีความเสี่ยงเยอะ แล้วก็รวยเยอะ กวาดเงินไปเยอะ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องงทำในการรับผิดชอบสังคม
