นายนิพิฏฐ์ ออกมาส่งสารถึงม็อบ 19 ก.ย. ในฐานะรุ่นพี่ศิษย์เก่าดีเด่น มธ. ให้ชุมนุมอย่างสงบ โดยรับฟังความเห็นโต้แย้ง และลงโทษการอาฆาตข่มขู่
จากกรณีที่ทางด้าน กลุ่มปลดแอก และเครือข่าย ประกาศชุมนุมแบบค้างคืน ในวันที่ 19 ก.ย.63 อีกทั้งยังได้ประกาศชัดเจนว่าจะมีการปราศรัยในเชิงจาบจ้วงสถาบันอย่างแน่นอน ส่งผลให้ทางด้านของ มธ.ได้ออกประกาศ ไม่อนุญาตให้ชุมนุม เพราะเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ มีศิษย์เก่า มธ. จำนวนมาก ออกมาต่อต้าน การชุมนุมในครั้งนี้ ล่าสุดทางด้านของ “นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นศิษเก่าดีเด่นของ มธ. ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว ฝากข้อความถึงการชุมนุมไว้ด้วยดังต่อไปนี้
ธรรมศาสตร์ กับ การเมือง
- ผมก็มีความผูกพันกับม.ธรรมศาสตร์ในระดับหนึ่ง เคยได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อหลายปีมาแล้ว ลูกๆก็จบธรรมศาสตร์กันทุกคน ก็ถือว่า มีความผูกพัน
- ผมไม่ฟันธงว่า ผู้บริหารม.ธรรมศาสตร์ควรจะทำอย่างไร เพราะเมื่อแต่ละฝ่ายตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำอย่างไร การให้ความเห็นจะสร้างความขัดแย้งไปเปล่าๆ แต่ในฐานะศิษย์เก่ารุ่นโบราณ มีความเห็นว่า
1.จะจัดการชุมนุมในหรือนอกมหาวิทยาลัยก็ตามผู้บริหารต้องหาทางรักษาความปลอดภัยทางกายภาพให้แก่นักศึกษา 100 % นี่เป็นงานข้อแรกของผู้บริหารมหาวิทยาลัย
2.มหาวิทยาลัยต้องรักษาเสรีภาพในการแสดงความเห็นของนักศึกษา ตามอุดมการณ์ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัย เพราะนี่คือ จุดแข็งของธรรมศาสตร์
3.ในส่วนของนักศึกษาก็ต้องรับฟังความเห็นต่าง ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น แสดงความเห็นอย่างที่ปัญญาชนที่พึงกระทำ ใช้การชุมนุมในอดีตเป็นบทเรียน
4. ขอยกคำกล่าวของอาจารย์ท่านหนึ่งมาเพื่อประกอบการแสดงความเห็นของนักเรียน-นักศึกษาว่า “เสรีภาพย่อมมีขอบเขต กฎหมายไม่ห้ามชุมนุม กฎหมายคุ้มครองการแสดงความคิดเห็น อนุญาตการพูดเย้ยหยัน แต่ลงโทษการดูหมิ่นเหยียดหยาม อนุญาตการคัดค้านประณาม แต่ลงโทษการใส่ความเป็นเท็จให้ผู้อื่นถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อนุญาตการโต้แย้ง แต่ลงโทษการอาฆาตข่มขู่” หลักเสรีภาพในการขุมนุมและการพูดมีอย่างนี้แหละครับ ลองไปตรองกันดู เห็นด้วยก็ได้ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร
(วันนี้ ขอแสดงความเห็นแบบไม่แสดงความเห็นก็แล้วกัน เพราะที่วิวาทะกันอยู่ต่างก็เป็นปัญญาชนกันหมดแล้ว)
