ระบุปัจจัยเสี่ยงแพร่เชื้อ COVID-19 6 พื้นที่โซนแดง ต้องจับตา ในขณะที่การติดเชื้อรายใหม่ในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพมหานคร
เมื่อเวลา11.30 น. วันที่ 30 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 136 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,524 ราย ซึ่งแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่ยังทรงๆแต่หากดูในส่วนของผู้ป่วยสะสมยังเพิ่มขึ้น จึงไม่ควรชะล่าใจ ประชาชนจะต้องมีการร่วมมือย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยสะสมโดยรวมสูงมากกว่านี้
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ในรายละเอียดเมื่อจำแนกตามพื้นที่ รวมมี 6 พื้นที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ กรุงเทพฯและนนทบุรียังมีตัวเลขที่สูง ส่วนการกระจายตัวของผู้ป่วยในช่วง 7 วันล่าสุดตั้งแต่ 23-29 มีนาคม 2563 ในต่างจังหวัดมี 5 พื้นที่ที่จะต้องพิจารณา ได้แก่ 1.ภาคใต้ฝั่งอันดามันจ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จากคนทำงานในสถานบันเทิง ร้านอาหาร โรงแรม ชับรถรับจ้าง 2.จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการที่เข้าร่วมพิธีศาสนาที่มาเลเซียและแพร่โรคต่อไปผู้ใกล้ชิด 3.จ.ชลบุรี จากชาวต่างชาติ นั่งร้านเหล้า และมาจากกรุงเทพฯ 4.จ.สระแก้ว จากคนที่ทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และ5.จ.อุบลราชธานี มี จากผู้สัมผัสกับเซียนมวยจากรุงเทพฯ คนทำงานที่ปอยเปต
“สิ่งที่เน้นย้ำของการติดเชื้อรายใหม่ของแต่ละวัน เป็นการติดเชื้อรายใหม่ในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563เป็นต้นมา เพราะฉะนั้นมาตรการจะสอดคล้องกับสิ่งต่าง ๆ และประชาชนจะต้องช่วยกันดำเนินการให้เร็วที่สุด”นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว
นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2563 ในจำนวนผู้ป่วยสะสม 1,524 ราย กระจายใน 59 จังหวัด โดยกรุงเทพมหานคร 721 ราย นนทบุรี 73 ราย ภูเก็ต 49 ราย กระบี่ 8 ราย ยะลา 42 ราย ปัตตานี 33 ราย นราธิวาส 7 ราย สมุทรปราการ 41 ราย ชลบุรี 39 ราย สงขลา 29 ราย อุบลราชธานี 12 ราย และสระแก้ว 5 ราย
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ
