ผศ.ดร.อานนท์ ส่งจดหมายเตือนสติ ม็อบปลดแอก แสดงความคิดเห็นให้อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่จ้วงจาบหยาบช้า
จากระแสการเมืองเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองเป็นอย่างมาก และในวันที่ 19 กันยายนนี้ ก็จะได้มีการชุมนุมใหญ่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ประชาชนปลดแอก ถึงแม้ว่าทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการชุมนุม แต่แกนนำม็อบปลอดแอก ก็ยังยืนยันที่จะจัดการชุมนุม
ล่าสุดทางด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชา Business Analytics and Intelligence และ Actuarial Science and Risk Management คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ อนุกรรมาธิการติดตามการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข วุฒิสภา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค Arnond Sakworawich เป็นจดหมายถึงกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยระบุข้อความว่า
1.ปลดแอกเป็นคำที่ใช้กับวัวกับควาย เช่น แอกวัว แอกควาย หลานๆ เยาวชนปลดแอกน่าจะหาคำอื่น เช่น เยาวชนเสรี เยาวชนปฏิรูปประเทศไทย อะไรก็ได้ ไม่ต้องปลดแอกเลย
2. ชื่นชมที่หลานๆ มีความคิดเห็นใส่ใจกับบ้านเมือง แม้หลายคนจะมองว่าหลานๆ แค่สนใจอนาคตของตัวเองมากกว่าสนใจบ้านเมืองก็ตาม แต่ในส่วนนี้ต้องชื่นชมอย่างยิ่ง
3. การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและไม่ขัดกับขนมธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เช่น ไม่ก้าวร้าวระรานมากเกินไป ไม่จ้วงจาบหยาบช้า ไม่หมิ่นเบื้องสูง การพูดอะไรออกไปก็ต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับเสรีภาพเสมอ และแน่นอนเมื่อเรามีสิทธิคนอื่นก็มีสิทธิ และเราต้องไม่ไปล้ำสิทธิของผู้อื่นเช่นกัน
4. ความคิดเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ต้องทำตัวเป็นเหยื่อไปทุกกรณีทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเหยื่อเพียงเพื่อเรียกคะแนนสงสาร ซึ่งไม่ได้น่าสงสาร ไม่ต้องทำตัวว่าถูกคุกคาม และต้องไม่บิดเบือนโกหก
5. การชุมนุมทางการเมืองทุกครั้งมีการจัดตั้ง มีการใช้เงิน เมื่อมีการจัดตั้ง ก็มีการนำ มีการแย่งชิงการนำ และเมื่อมีการจัดตั้ง ก็ต้องมีการจัดกระทำ มีการชักใย ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยความปรารถนาดีหรือประสงค์ร้ายก็ตาม อย่าได้หลงเชื่อในเรื่องเจตน์จำนงค์เสรี (Free will) ไปทั้งหมด โลกไม่ได้สดใสขนาดนั้น และหลานๆ ก็ไม่ได้เป็นนกนางนวลที่จะบินไปไหนก็ได้ดังใจปรารถนา (แต่ว่าจะไปนอกขอบฟ้าได้หรือ) อย่าไร้เดียงสาจนกลายเป็นโง่
6. การเอาชนะคะคาน ให้ได้ดังใจตนเองไปทุกเรื่องทุกครั้ง จะทำให้เราอยู่ร่วมกันไม่ได้เลย ปราศจากความสงบสุข การประนีประนอมกับสิ่งที่ไม่ถูกใจเรา เป็นสิ่งที่ต้องฝึกความอดทน แม้เราจะยืนบนหลักการไม่ประนีประนอมกับความไม่ถูกต้องก็ตาม การมีชีวิตอยู่ในโลกของความเป็นจริงแต่ยึดติดแต่กับโลกในอุดมคติและโลกแห่งความฝันทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความผิดหวังและความคับแค้น แต่การมีชีวิตอยู่โดยไร้สิ้นโลกแห่งอุดมคติและโลกแห่งความฝันไปเสียสิ้นก็ทำให้ชีวิตไร้ค่าเช่นกัน
7. ในการชุมนุมทุกครั้งมีทุกฝ่ายที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์ให้เกิดความรุนแรง การเสียชีวิต และการนองเลือด การชุมนุมทุกครั้งเต็มไปด้วยอันตรายจากมือที่สาม หรือแม้แต่ผู้ถืออำนาจรัฐเอง การเข้าไปร่วมชุมนุมใดๆ ก็ขอให้ไปโดยรู้จักระมัดระวังตัว อย่าไปแบบโง่ๆ อย่าไปแบบเซ่อๆ หากสังเกตความผิดปกติใดๆ ให้รีบออกมา ที่ใดมีคนมากแน่นหนาจะเกิดการหลงหายในฝูงชน จะฆ่าให้ตายสักสิบคนให้นองเลือดก็ไม่อาจจะจับมือใครดมได้เลย ข้อสำคัญมากคืออย่าให้ตัวเองตกอยู่ในวงล้อม หรือถูกลูกหลงตาย พิการ บาดเจ็บ แบบโง่ๆ อย่าได้คิดว่าตนเองจะได้เป็นวีรชน มีคนแห่ศพไว้เรียกร้อง คนที่จะเสียใจสุดก็คือบิดามารดา และตัวหลานเองก็จะหมดอนาคต อย่าประมาท อาจจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ ก็ได้ทั้งสิ้น อย่าได้ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างที่รักหลานต้องเสียใจเลย