จากที่มีสถานการณ์ทางการเมือง โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก และแนวร่วมจะจัดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งนำโดยเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แม้ทางผู้บริหารไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่เพราะผิดเงื่อนไขในการขอจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้น
ต่อมา ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงเรื่องราวในอดีตและมองถึงปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาบางช่วง ระบุว่า เป็นห่วงขออย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก
“เดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2519 เมื่อ จอมพลถนอม กิตติขจร บวชสามเณรกลับเข้ามาอยู่ในประเทศไทยหลังจากที่ถูกให้ออกไป อยู่นอกประเทศเพื่อให้เกิดความสงบภายในประเทศ ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) นำโดย นายสุธรรม แสงประทุม เลขาธิการศูนย์ฯ ได้นัดกรรมการศูนย์ฯ ซึ่งมีตัวแทนนักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัยมาประชุมกัน ณ ที่ทำการของสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยประกาศล่วงหน้าว่าเพื่อขอมติจากกรรมการศูนย์ฯ เพื่อประกาศชุมนุมอย่างยืดเยื้อจนกว่า สามเณร ถนอมจะออกไปนอกประเทศ โดยกำหนดจะใช้สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นสถานที่ชุมนุม”
(“ดร.ป๋วยขอลาออกจากการเป็นอธิการบดี ซึ่งท่านก็ลาออกจริง ๆ… และเหตุร้ายก็เกิดขึ้นจริงๆ”?!? ไตรรงค์เผยก่อน6ตุลา! ดร.ป๋วยห้ามใช้มธ.ชุมนุม แต่นศ.ฝ่าฝืน จนเกิดเหตุร้าย https://thaimoveinstitute.com/35455/)
ล่าสุดวันนี้(11ก.ย.63) นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ได้ออกมาตอบโต้ ดร.ไตรรงค์ ว่า
“ผมได้อ่านข้อความในเฟซบุ๊กของดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ด้วยความเคารพ แต่จำเป็นต้องชี้แจงแสดงความเห็นเพื่อความเข้าใจในความถูกต้องเป็นจริงของเหตุการณ์ ผมไม่ได้เป็นห่วงคนรุ่นใหม่ เพราะตระหนักดีว่าเขาศึกษาเหตุการณ์จากการศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง และดูแล้วเขาเข้าใจเหตุการณ์ 6 ตุลา19 ดีเห็นถึงสาเหตุของปัญหาตามหลักกาลามสูตรเป็นห่วงแต่คนรุ่นดร.ไตรรงค์และคนรุ่นผมทีมีสารตกค้างของขยะประวัติศาสตร์ อยู่เต็มสมอง และคงพกพาหลงเหลือไปถึงภพหน้า(ถ้ามี)
การชุมนุมของนักศึกษาประชาชนในเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลา19 เป็นการชุมนุมอย่างสงบสันติตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ และได้ขออนุญาตและได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นคือม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
เหตุการณ์ในวันนั้นจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีคนสร้างสถานการณ์ใช้ความรุนแรงก่อกวนคุกคามจนกลายเป็นการฆ่าหมู่กลางเมืองซึ่งรูปภาพสยดสยองปรากฎไปทั่วโลก
เหตุการณ์ความรุนแรงในวันนั้นจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเรามีรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งไม่ปล่อยให้จอมพล ถนอม กิตติขจร เดินทางเข้ามาในประเทศ ทั้งๆที่รู้ล่วงหน้า
เหตุการณ์ความรุนแรงในวันนั้นจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ารัฐบาลได้บริหารจัดการให้จอมพลถนอมออกนอกประเทศไปตามความต้องการของนักศึกษาประชาชน อยากให้ ดร.ไตรรงค์ไปอ่านบันทึก ของสุรินทร์ มาศดิตถ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ที่เขียนถึงพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าใจเหตุการณ์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี
ถ้าจะพูดให้ลึกไปกว่านั้นความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากความอ่อนด้อยประสิทธิภาพของรัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใดขอให้ท่านไปค้นคว้าหาดูซึ่งเป็นการเล่นการเมืองหลายหน้าจับปลาหลายมือจนเป็นสาเหตุทำให้ดอกผลการต่อสู้ 14 ตุลา 16 ถูกทำลายไปอย่างย่อยยับซึ่งยังคงเป็นพฤติกรรมที่ดำรงมาอยู่จนถึงทุกวันนี้
ไม่อย่างนั้นแล้วความกังวลห่วงใยที่ ดร.ไตรรงค์ มีอยู่จะไม่ต่างอะไรกับเสียงของผู้คนที่ไปตะโกนตามโรงหนังเรื่องอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ และเรื่องจำลองพาคนไปตายในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 35