ชลน่านพล่อยกลางสภาบอกไม่รู้จริงหรือเท็จจะมีวางกับดักม็อบ?นายกฯลุกตบปากอย่าปลุกระดม!

0

จากที่มีการแถลงนัดชุมนุมโดย พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน  น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมทั้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง

ทั้งนี้สำหรับการชุมนุมครั้งนี้ จะเป็นการชุมนุมข้ามคืน  จะมีกิจกรรมต่างๆ สลับหมุนเวียนกันไป ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ไปจนถึงรุ่งเช้าวันที่ 20 ก.ย. และในเวลา 08.00 น. จะมีการเคลื่อนขบวนการชุมนุมออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปยังทำเนียบรัฐบาลนั้น

ขณะที่รัฐสภา ซึ่งมีการประชุมสภา เปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยช่วงหนึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การชุมนุมของนิสิต นักศึกษา ประชาชนวันที่ 19-20 ก.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เหตุการณ์นี้ควรได้รับการแสดงออก สนับสนุนจากคนที่มีอำนาจ แต่สิ่งที่ได้ยินมาจะเป็นจริงหรือเท็จยังไม่ทราบ แต่ภาวนาขอให้เป็นเท็จ เพราะจะมี ‘ยุทธการสะพานมัฆวานรังสรรค์ 19 กันยาปิดสวิตช์ลูกหลานประชาชน

“ท่านต้องอย่าให้เหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะหากผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านถนนราชดำเนินมายังสะพานมัฆวานที่จะมีการวางกับดัก ถ้าเขามีเพียงเจตจำนงยื่นข้อเรียกร้องให้นายกฯ แต่ถ้ามีเหตุการณ์เกิดที่สะพานมัฆวาน ก็จะเป็นตราบาปที่จะเกิดขึ้น หากปล่อยให้นิสิต นักศึกษาได้แสดงออก โดยไม่มีการไปปลุกปั่น ยั่วยุ จะไม่มีเหตุการณ์ ก่อจลาจล วุ่นวาย แต่เขาจะมาด้วยความสงบ

ท่านต้องระมัดระวังจะมีมือที่สามที่สี่หรือไม่ ไม่รู้ แต่ถ้ามีการสร้างความปั่นป่วน ยุยง ประเด็นที่ละเอียดอ่อน น่าแปลกใจที่มีการจับๆปล่อยๆแกนนำ คล้ายๆกับการต่อรองหรือไม่ และพยายามยั่วยุ เร่งเร้าที่จะใช้เป็นกับดัก ตนไม่ได้กล่าวหา ถ้ามีมือที่สามไปยั่วยุ ไปปราศรัยประเด็นละเอียดอ่อน ทำให้การชุมนุมขยายวงกว้างไป บุกยึดสนามหลวง ยึดถนนราชดำเนิน ผ่านสะพานมัฆวาน หากเลยจากนั้นไปถูกประกาศเป็นเขตพระราชฐาน ฝากไปถึงนายกฯในฐานะผู้นำ ต้องป้องกัน หามาตรการอย่าให้เกิดเหตุ เว้นแต่มีความประสงค์เจตจำนงอย่างแรงกล้า ที่จะออกไปทำตามข้อเรียกร้องของลูกหลาน เยาวชน”

นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนพูดในวันนี้อย่าให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะความรุนแรงทางการเมืองหากมีการปะทะชุมนุมวุ่นวายก็อย่าประกาศกฎอัยการศึก อย่าได้ทำเพราะจะเป็นปัญหา เป็นหายนะ และเป็นทุกข์ของประเทศ ทั้งนี้ เห็นว่าการตัดสินใจลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ โดยมโนสำนึกของนายกฯ ตนเชื่อว่าเป็นผู้ที่มีจิตใจดีต่อชาติบ้านเมือง หากเห็นว่าเกิดปัญหาขึ้นจริง หากเสียสละ จะเป็นวีรบุรุษในหัวใจของพวกเรา

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า การอภิปรายถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่มีการระบุว่าจะเป็น ยุทธการสะพานมัฆวานรังสรรค์ฯ เกรงว่าจะเป็นการปลุกระดม คนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องจะมองว่า เป็นตัวร้ายที่จ้องจะกำจัดใครก็แล้วแต่ เหมือนเป็นการปลุกระดม ที่จะเร่งให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย ไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลย

“อดีตคืออดีตวันนี้คือวันนี้ อะไรผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผมไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก วิเคราะห์กันไปเรื่อย มองไปเรื่อยเคลื่อนรถเกราะรถถังจะรบกับใครจะยิงกับใคร เมื่อปี 2557 ไม่ได้ยิงปืนสักนัด ไม่ได้เอารถถังมาปิดใครด้วย ผมไม่ได้กลัวใครทั้งสิ้น แต่กลัวคนที่แอบอยู่ข้างหลัง ที่จะทำให้เหตุการณ์บานปลายเร่งปลุกระดม ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ยุ่งเกี่ยวที่จะห้ามนักศึกษา เพราะเป็นหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ

ผมย้ำเสมอว่าให้อะลุ่มอล่วย ดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด เพราะกลัวมือที่สาม เมื่อปี 2553 ก็เกิดขึ้นมาแล้ว เพราะทุกคนคือลูกหลานของผม ฟังนักศึกษาฟังคนอีกพวกหนึ่ง อย่ามาบอกว่าไม่ฟังใคร ที่ผ่านมาอะลุ่มอล่วยมาตลอด ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลกันต่อไป

ทุกวันนี้ให้สังเกตว่าเขาให้ประกันตัวก็ไม่รับ แต่ขอติดคุก ถามว่าเกิดอะไรขึ้นมีใครไปยุแหย่เขาหรือไม่ ผมรักลูกหลานอยู่แล้ว เพราะผมก็เป็นคนมีลูก อบรมลูกในทางที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ก้าวล่วงงานพ่อ ไม่รับผลประโยชน์ ไม่เปิดเผยตัว นั่นคือลูกของผมครอบครัวของผม ส่วนครอบครัวไหนไปร่วมชุมนุม ก็ดูแลลูกของท่านให้ปลอดภัยอยู่ดี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรแน่นอน ขอยืนยันตรงนี้เลย ใครจะทำต้องหาตัวให้เจอฝากให้ลูกหลานสบายใจ ให้อยู่ในกรอบสันติวิธี ฟังหมดแต่ไม่อยากฟังต่อหน้า เพราะมีปัญหาที่มีคนอยู่เบื้องหลังพอสมควร อย่าให้พูดมากกว่านี้เลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว