อ.ชูชาติ เปิดชะตากรรม ผู้ถูกดำเนินคดี ใส่ความเท็จลูกสาวนายกฯ อย่าคิดว่าเรื่องเล็ก

0

อ.ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความฝากถึงผู้ถูกดำเนินคดีใส่ความเท็จลูกสาวนายกฯ ถึงวิบากกรรมที่ต้องเตรียมตัวรับ

จากกรณีที่ได้มีผู้ทวิตเตอร์ @LukfahK โพสต์ภาพหมายเรียกของ สน.นางเลิ้ง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โดยต้องเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ในวันที่ 14 ก.ย. 2563

กลุ่มเยาวชนบูลลี่ เปิดขอรับเงินบริจาคสู้คดี จากการตามล่าลูกประยุทธ์

ล่าสุด ทางด้านของ อ.ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความถึงวิบากกรรม ที่ผู้ต้องหารายดังกล่าวต้องเจอ โดยระบุข้อความดังต่อไปนี้…

กรณีบุตรสาวทั้งสองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ที่นำความเท็จมากล่าวใส่ความทำให้ได้รับความเสียหายซึ่งมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา และ พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น

พนักงานสอบสวนเริ่มมีหมายเรียกบุคคลผู้เข้าข่ายกระทำความผิดไปพบพนักงานสอบสวนแล้ว

มีผู้ออกมาขอความช่วยเหลือบุคคลที่ถูกหมายเรียกแล้ว ทั้งขอคำแนะนำการสู้คดีและความช่วยเหลือทางการเงินโดยการบอกหมายเลขบัญชีให้มีการโอนเงินให้

ขอบอกว่าหลังจากนี้สิ่งที่ต้องประสบคือ

1. ต้องไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ถ้าไม่ไปพนักงานสอบสวนก็ไปขอศาลให้ออกหมายจับได้ หากศาลอนุญาตให้ออกหมายจับและถูกจับตามหมายจับ พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาล เมื่อศาลอนุญาตก็ต้องขอประกันตัว มิฉะนั้นก็ต้องส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำระหว่างสอบสวน

2. เมื่อพนักงานสอบสวนเสร็จหากพยานหลักฐานฟังได้ว่ามีการกระทำความผิดจริงก็มีคำสั่งฟ้องและส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการพิจารณา ถ้าพนักงานอัยการเห็นด้วยก็สั่งฟ้องและนำตัวไปฟ้องต่อศาล

3. เมื่อศาลสั่งประทับฟ้องแล้ว ก็ต้องขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี และศาลจะนัดนัดสอบคำให้การจำเลย ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพศาลก็จะมีคำพิพากษา แต่ถ้าจำเลยให้การปฏิเสธ ก็จะนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย เสร็จแล้วก็จะมีคำพิพากษาลงโทษหรือยกฟ้อง

ถ้านับตั้งแต่วันที่ไปพบพนักสอบสวนตามหมายเรียกหรือถูกจับตามหมายจับ จนถึงวันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาก็จะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 ปี นอกจากต้องเสียเวลาที่เคยมีชีวิตอย่างสงบสุขไปกับการต้องวุ่นวายในต่อสู้คดี ต้องใช้หลักทรัพย์หรือเงินในการขอประกันตัว ต้องเสียเงินจ้างทนายความเพื่อช่วยเหลือในการสู้คดีในศาล ต้องไปศาลตามวันนัด

ประการสำคัญที่สุดคือผู้ถูกดำเนินคดีอาญาทุกคนต้องประสบคือความทุกข์ทรมานทางใจที่เกรงว่าศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุก ยกเว้นบุคคลที่เคยถูกลงโทษจำคุกมาแล้วหลายครั้งจนเคยชินแล้ว

คดีนี้ผู้ที่นำข้อความอันเป็นเท็จกล่าวหาผู้เสียหายทั้งสองคน มีโอกาสรอดยากเพราะผู้เสียหายทั้งสองไม่ได้เป็นข้าราชการหรือนักการเมืองหรือเป็นบุคคลสาธารณะ จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 และ มาตรา 330 มาอ้างได้

นี่คือบทเรียนที่สอนให้เรียนรู้ว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น ก่อนลงมือทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบว่าทำไปเพื่ออะไร ใครจะได้หรือเสียประโยชน์

เมื่อถูกดำเนินคดีจะมีใครมาช่วยเหลือบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกถูกนำตัวเข้าไปคุมขังอยู่ในเรือนจำจะได้รับความทุกข์ยากลำบากเพียงใดไม่มีใครสามารถมารับโทษจำคุกแทนได้

…..กรณีบุตรสาวทั้งสองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา…

Posted by Chuchart Srisaeng on Saturday, September 5, 2020