เพนกวิน เดินทางพบเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียก ยังไม่สลดขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล-ทหาร-ตุลาการ-สถาบันกษัตริย์ต่อเนื่อง
จากกรณีนายพริษฐ์ ชิวารัก หรือเพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ได้รับหมายเรียนจากพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆในสถานที่แออัด หรือการกระทำดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย การชุมนุม การทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หลังจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ลำปางรวมการเฉพาะกิจ รวมพลคนไม่ทนในลำปาง ซึ่งจัดขึ้น ณ ข่วงนคร ห้าแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครลำปาง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ภายหลังจากการเข้าพบเจ้าหน้าที่ที่สภ.เมืองลำปางแล้วนั้น นายพริษฐ์ ได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงราย ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย ศาลากลาง จ.เชียงราย หลังแรก (ลานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5) ถนนสิงหไคล อ.เมืองเชียงราย โดยเครือข่ายในพื้นที่จัดกิจกรรมขึ้น
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ได้มีการติดป้าย รอยัลลิสต์มาเก็ตเพลส และภาพพร้อมข้อมูลของผู้เคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบันระมหากษัตริย์ที่ได้หายตัวไปจำนวน 16 คน ทั้งยังนำผ้าขาววางไว้หน้าเวที 4-5 ผืนเพื่อเปิดให้ผู้สนใจวาดภาพเขียนข้อความล้อการเมืองต่างๆ
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนได้กลิ่นการรัฐประหาร เพราะมีการขนอาวุธยุโธปกรณ์ โดยเฉพาะจากสระบุรี เข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก จึงต้องถาม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ที่อ้างว่านำไปซ้อมรบนั้น เป็นการซ้อมยิงประชาชนหรือไม่ เพราะกองทัพบกก่อตั้งเมื่อปี 2417 มีวีรกรรมแค่ 2 เรื่องคือปราบปรามประชาชนและยึดอำนาจรัฐ
ซึ่งหากใครเห็นด้วยกับตนให้ไปร่วมกันชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ด้วย โดยที่นั่นจุคนได้ 10,000 คน หากมีจำนวนเท่านั้นเราก็จะปักหลักยาวแต่หากมีถึง 50,000-100,000 คน ขึ้นไปเราจะยึดสนามหลวงให้เป็นสนามของประชาชน และตนสัญญาว่าชาวเชียงรายจะไม่กลับมามือเปล่า.
ขณะที่ นายกฤตตฤณ สุขสมบูรณ์ แกนนำใน จ.เชียงราย กล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้กำลังจะพังแล้ว เพราะใช้งบประมาณบริหารประเทศกว่า 7.4 ล้านล้านบาท และกำลังจะกู้รวมกันทั้งหมดแล้วกว่า 10 ล้านล้านบาท ซึ่งสงสัยว่าเพื่อจะนำมาซื้อเรือดำน้ำและเสียค่าโง่เหมืองทองอัคราหรือไม่
ดังนั้นจึงหมดเวลาสำหรับรัฐบาลชุดนี้และหมดเวลาที่ประชาชนทั่วไปจะอยู่หลังนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวจนถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ส่วนข้าราชการบางหน่วยก็ไม่ควรไล่จับเยาวชนโดยให้เอาอย่างเบรารุตที่เข้าข้างประชาชนและหวังว่าการชุมนุมครั้งต่อไปจะเป็นเวทีของคนทุกหมู่เหล่า
อย่างไรก็ดี ในเวทีการปราศรัยครั้งนี้ มีนายสิรวิชญ์ เสรีธวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ได้ร่วมขึ้นเวที และได้กล่าวว่าวันนี้ผู้คนเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง พวกเราก็อยากให้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง
แต่กลับพบว่าตรงตามสำนวนว่า “คนดีชอบแก้ไข คนจรรลัยชอบแก้ตัว” คือนอกจากจะไม่แก้ไขยังไล่จับคนอีก ทั้งๆที่ในรัฐบาลก็พบปัญหาเรื่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ไม่ลงตัว แล้วยังจะมีหน้าใช้อำนาจเหมือนยุค คสช. มาสอนเยาวชนอีกซึ่งบ่งบอกตัวตนของผู้มีอำนาจและชนชั้นนำได้เป็นอย่างดี
“ตอนนี้ผู้คนยังเริ่มหมดศรัทธากระบวนการยุติธรรม กรณีนายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ระยอง ที่ถูกถอนประกันคดีเพียงแค่มาจัดเวทีปราศรัย ดังนั้นถามว่าเราจะอยู่ภายใต้สภาพนี้หรือ และเชื่อว่าพลังประชาชนเท่านั้นจะเปลี่ยนแปลงมันได้ จึงขอให้ทุกคนอดทนหลังจากพลังประชาชนฝ่อลงหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 และตอนนี้กำลังก่อตัวเพื่อเป็นหนทางสู่ ปชต.ที่สมบูรณ์ต่อไป โดยตนขอให้มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงได้แล้วเพราะมนต์ขลัง คำพูดและวลีเดิมๆ ใช้ไม่ได้แล้ว”
