นายกฯ สั่งตำรวจเร่งคดี “บอส อยู่วิทยา” ลั่นจะไม่ปล่อยให้คนผิดหลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม

0

จากกรณีที่นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความตระกูลอยู่วิทยา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีรายงานผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา คดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสน.ทองหล่อเสียชีวิตปี 2555 ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ว่าตนไม่เห็นด้วย เพราะไม่เหมาะสมที่จะชี้ความถูกความผิดของคดี เพราะเป็นเรื่องของตำรวจ อัยการ ผู้สอบสวน

ขณะที่ทางด้านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โพสต์ถึงกรณีนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก Prayut Chan-o-cha ระบุว่า ตามรายงานที่นายกฯได้รับมาเมื่อวาน เห็นชัดเจนว่า อาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส หรือใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำ เพราะฉะนั้น นายกฯจะสั่งการให้เริ่มสอบสวนเจ้าหน้าที่หรือบุคคล ที่อาจจะเกี่ยวข้องทำให้เกิดความไม่ถูกต้องในกระบวนการทางกฏหมาย เมื่อวานนี้ ผมได้รับรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีสั่งไม่ฟ้อง “นายวรยุทธ อยู่วิทยา” ที่คุณวิชา มหาคุณ และคณะได้ดำเนินการตรวจสอบ

ผมได้อ่านเอกสารทุกหน้า และรู้สึกว่าสิ่งที่ได้อ่าน เป็นสิ่งที่น่าเศร้ามากสำหรับประเทศไทย

ผมขอเริ่มด้วยการพูดถึงสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้ก่อน

ผมไม่ใช่คนที่จะตัดสินได้ว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา มีความผิดหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่ศาลและผู้พิพากษาจะเป็นผู้ตัดสิน ตามหลักกฏหมาย และหลักฐานต่าง ๆ ที่นำมาประกอบคดี อย่างถูกต้อง

แต่สิ่งที่ผมสามารถทำได้ และผมจะทำ คือ

คดีนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการเร่งด่วน และให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ “บอส” ในคดีที่ยังไม่หมดอายุความ ภายใน 30 วัน

เราต้องไม่ปล่อยให้คนหลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม โดยใช้วิธีถ่วงเวลาให้หมดอายุความ และผมถือว่า การปล่อยให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องที่เลวร้ายด้วยเหมือนกัน

และมีอีก 2-3 เรื่องที่ผมขอพูด ผมขอบอกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีเหล่านี้ว่า ขอให้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง และใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำทาง นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นได้ เพราะไม่อย่างนั้นคุณเองก็อาจจะเดือดร้อนด้วย

อีกเรื่องหนึ่งคือ ตามที่ผมเคยกล่าวถึงวิธีการทำงานแบบ New Normal ของผม และภาครัฐ ว่าเราจะต้องทำงาน โดยรับผิดชอบกับงานของตัวเอง และรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้นจากการทำงานของเราด้วย และตามรายงานที่ผมได้รับมาเมื่อวาน ผมเห็นชัดเจนว่า อาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส หรือใช้จริยธรรมและศีลธรรมนำทางเท่าใดนัก เพราะฉะนั้น ผมจะสั่งการให้เริ่มสอบสวนเจ้าหน้าที่หรือบุคคล ที่อาจจะเกี่ยวข้องทำให้เกิดความไม่ถูกต้องในกระบวนการทางกฏหมาย ทั้งจากปฏิบัติหน้าที่ หรือการไม่ปฏิบัติหน้าที่

 

ผมขอให้ทุกคนจำกรณีนี้เรื่องนี้ มี 2 ผู้เสียหาย ผู้เสียหายคนแรก คือ ตำรวจดี ๆ ท่านหนึ่ง ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในช่วงเช้ามืดของวันนั้นส่วนอีกหนึ่งผู้เสียหาย ก็คือ ประเทศไทยของเราทั้งหมด เพราะวิธีการดำเนินคดีในกรณีนี้ ได้ส่งผลกระทบในทางลบอย่างรุนแรง กับพื้นฐานที่สำคัญของสังคม 2 อย่าง นั่นคือ ความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อระบบยุติธรรม และความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อการบังคับใช้กฏหมายเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของยุคสมัยใหม่

เป็นยุคสมัยที่คนรุ่นใหม่ต้องการความโปร่งใสมากขึ้น และความรับผิดชอบอย่างเต็มที่มากขึ้น จากผู้นำ ผมขอขอบคุณ คุณวิชา ที่เสียสละรับภารกิจที่ยากมากนี้ และผมต้องขอขอบคุณผู้เชี่ยวชาญและผู้อาวุโสทุกท่านในคณะ ที่ได้เสียสละทำภารกิจนี้เพื่อประเทศสิ่งที่ท่านทั้งหลายทำให้ประเทศในครั้งนี้ จะส่งผลที่ยิ่งใหญ่ มากกว่ากรณีนี้กรณีเดียวผมขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง