แบบนี้ใช่หรือไม่ ที่ธนาธรต้องการ ตัดงบปิดทองหลังพระฯ 287 ล้าน อ้างไม่สอดรับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่สนว่าโครงการจะมีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร! เผยงานมูลนิธิปลูกฝังเยาวชนช่วยชาติ
สืบเนื่องมาจากที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษากมธ.ฯ ได้ออกมาแฉเบื้องลึกโครงการมูลนิธิปิดทองหลังพระว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้ตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนการทำงานของ “มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ” สำหรับปีงบประมาณ 2564 เป็นจำนวนเงิน 287 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณรายการนี้ถูกตัดไปในชั้นอนุกรรมาธิการอบรมสัมมนาฯ เมื่อวานนี้ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ขออุทธรณ์เพื่อไม่ให้ตัดงบสนับสนุนมูลนิธิปิดทองหลังพระ
ซึ่งนายธนาธรอ้างว่า งบประมาณดังกล่าวของมูลนิธิ มีภารกิจและงบประมาณที่ซ้ำซ้อนไม่สอดรับกับการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างไร?
ความจริงแล้ว น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณวงเงิน 572.58 ล้านบาท ให้มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เพื่อนำไปใช้ตามแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่ 3 ปี 64-65 ใน 3 แผนงาน ได้แก่
- การเสริมสร้างความเข้มแข็งของพื้นที่ต้นแบบเดิมไปสู่ความยั่งยืน 62 ล้านบาท โดยประชาชนในพื้นที่ต้นแบบพ้นจากความยากจนไม่น้อยกว่า 80%
- ส่งเสริมการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคง 224.58 ล้านบาท ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้และ 4 จังหวัดชายแดนเหนือ
- สนับสนุนการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ด้วยการจัดการความรู้และพัฒนาบุคลากร 286 ล้านบาท
ทั้งนี้ มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ฯ ระยะที่ 1-2 ที่ (54-62) ซึ่งมีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจใน 7 พื้นที่ต้นแบบ ส่งผลให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมต้นแบบ มีรายได้เฉลี่ยครอบครัวละ 350,309 ต่อปี สูงกว่าประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วม 63% และพ้นจากความยากจนถึง 76%.
วันนี้เราจึงอยากให้ผู้อ่านมารู้จักกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ เพิ่มเติมกันคร่าวๆ
มูลนิธิปิดทองหลังพระคืออะไร? เป็นมูลนิธิที่สืบสานแนวพระราชดำริ ซึ่งได้สร้างพื้นที่ต้นแบบ สร้างพื้นที่ขยายผล จนมีคนเห็นประโยชน์นำไปต่อยอดสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และขยายผลไปเรื่อยๆ ในรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ความมั่นคง และการซ่อมแซมปรับปรุงแหล่งน้ำขนาดเล็ก รวมทั้งยังสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างชุมชน พัฒนาชุมชนเรียนรู้ชุมชน โดยใช้เยาวชนในพื้นที่
ในที่นี่เราขอยกตัวอย่าง “จังหวัดน่าน” ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ พื้นที่แรก ที่มีความสำคัญหลายประการ อาทิเช่น เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ เป็นแหล่งน้ำ แหล่งหาอาหาร และการทำการเกษตร แต่กลับประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะ การขาดแคลนพื้นที่ทำการเกษตร การเผาป่าทำการเกษตร จนก่อให้เกิดปัญหาควันไฟป่า การขาดพื้นที่ป่า แต่ก็ได้มูลนิธิปิดทองหลังพระเข้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนสามารถเพิ่มพื้นที่ป่าน่านเพิ่มขึ้นได้ถึง 106,580 ไร่
http://www.pidthong.org/main-project.php?id=1&menu_id=1#.X08BScgzbIU
อีก 1 โครงการสำหรับเยาวชน ก็คือ เช่นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2562 ส่วนยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 ลำปาง ได้จัดการฝึกอบรม “ต้นกล้าเยาวชนจิตอาสา รักษ์สิ่งแวดล้อม สืบสานแนวพระราชดำริ” (มิติสิ่งแวดล้อม) ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชุมชนตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ(โครงการปิดทองหลังพระ) ปีงบประมาณ พ.ศ.2562 รุ่นที่ 3
ซึ่ง 10 ปี ของมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ก็ได้มีโครงการมากมายออกมาเรื่อยๆ เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาสังคมไทย บนพื้นที่ต้นแบบ 7 พื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุดรธานี เพชรบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุทัยธานี พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ยะลา ปัตตานี) และพื้นที่ขยายผล…
ซึ่งหากเราสังเกตดู ทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาในข้างต้นจากรองโฆษกฯ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่นายธนาธร พยายามจะสื่อหรือพยายามที่จะชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ งบประมาณทั้งหมดถูกจัดขึ้นมาเพื่อเพื่อใช้ในปี 64-65 และเพื่อตอกย้ำว่ามูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ก่อประโยชน์ต่อสาธารณชนจริง ขอแนบข้อมูลเพิ่มเติมจากเพจมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ตามนี้เลยครับ
10 ปี ปิดทองหลังพระฯ สร้างรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนในโครงการเพิ่มร้อยละ 63 พื้นที่ป่าน่านเพิ่มขึ้น 106,580…
Posted by มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ on Saturday, August 29, 2020
ที่มา : https://www.facebook.com/pidthong/