จากที่อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงคณะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 พิจารณาในส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม นั้น
ทั้งนี้โดยการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ของกองทัพเรือ โดยในปี 64 ได้มีการขออนุมัติงบประมาณจำนวน 3,375 ล้านบาท ในการที่จะมีเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ โดยจะมีการชำระเงิน 7 ปี ซึ่งข้อเท็จจริงมีการเริ่มงบประมาณในปี 63 ที่กองทัพเรือได้ขออนุมัติไป แต่เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กระทรวงกลาโหม
“กองทัพเรือได้เปลี่ยนแปลงคือ ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน พอมางบประมาณปี 64 ได้มีการดำเนินการต่อ ซึ่งมีการเสนองบประมาณเข้ามาที่ กมธ.เพื่อขอซื้อเรือดำน้ำในวงเงินเดิมคือ 3,375 ล้านบาท และกองทัพเรือได้ชี้แจงความจำเป็นในการจัดซื้อครั้งนี้ต่อ กมธ. ทั้งนี้ ลำที่ 1 ได้มีการจัดซื้อไปแล้วและจะมีการส่งมอบต่อไป ส่วนลำที่ 2 และ 3 มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่ได้มีการดำเนินการไว้”
ล่าสุดวันนี้(1ก.ย.63) นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงประเด็นการซื้อเรือดำน้ำ และการใช้งบประมาณในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า
…ถ้าการซื้อเรือดำน้ำที่ต้องใช้งบประมาณปี 2564 จำนวน 3,000 ล้านบาทเศษ ให้ระงับไว้ก่อนเพื่อใช้เงินช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเนื่องจากปัญหาโควิด-19
…..การที่จะใช้เงิน 10,000 ล้านบาทเศษ เพื่อใช้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งประชาชนทั่วไปไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ก็สมควรต้องระงับเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเนื่องจากปัญหาโควิด-19 เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเปิดเผยถึงการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ยื่นในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดนมีเนื้อหาบางส่วนน่าสนใจดังนี้
‘ส.ส.ร.’ ฉบับพรรคฝ่ายค้าน
15 เดือน 1 เลือกตั้งทั่วไป 2 ประชามติ
11,000 ล้านบาท !
ยุบสภา/เลือกตั้งส.ส.ชุดใหม่
ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินให้ก.ก.ต.ประมาณ 15,000 ล้านบาท
แต่ถ้านับเฉพาะกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น ก็จะเหลือเพียง 11,000 ล้านบาท
ที่มา : เฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng
