“คชโยชี” ตอกกลับ “บก.ลายจุด” หลังแซะเสพข่าวปลอม อยู่กับพวกอนุรักษ์นิยม ซัดปัญญาอ่อน

0

จากกรณีที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” หัวหน้าพรรคเกียน โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวว่า “แม้ผมจะเคยร่วมแซวกรณีที่น้องคชโยธีพูดผิด แต่ผมคิดว่าการพูดในที่สาธารณะเป็นเรื่องยากพอสมควร ความตื่นเต้นและแรงกดดันอาจทำให้พูดผิดได้ ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ เอาจริง ๆ เรื่องนี้ไม่สามารถเอามาเป็นน้ำหนักได้ ถ้าเรามองว่าอายุน้องยังน้อยการที่เขามายืนหน้าไมค์หน้ากล้องขนาดนี้ ต้องถือว่าเขาทำได้สมวัยแล้ว

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ สภาพแวดล้อมที่โอบอุ้มน้องคชโยธีอยู่นั้นจะเป็นอุปสรรค์ต่อการเรียนรู้และรับรู้ความเป็นจริงทางสังคม น้องอยู่ท่ามกลางคนรุ่นเก่าแบบอนุรักษ์นิยม น้องใช้ชุดคิดเรื่องสังคมก้มหน้าโดยมองแค่ปรากฏการณ์ทางสายตาที่มองเห็น หรือแม้แต่การตัดสินว่าคนที่คิดต่างจากน้องเสพแต่สื่อ Fake News และมองว่าการดูทีวีดีกว่าอินเทอร์เน็ต

สิ่งนี้ชัดเจนว่าน้องเป็นคนรุ่นเก่าที่อายุน้อย อย่าเลิกใช้โซเชียลนะครับ นี่เป็นช่องทางเดียวที่น้องจะหลุดจากคนที่เอาใจน้องอยู่ตอนนี้ และเติบโตมาเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจความเป็นจริง พี่ขอเป็นกำลังใจ เวลาน้องออกงานพี่เฝ้าดูน้องเป็นพิเศษด้วยความห่วงใย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บก.ลายจุด อ้างห่วง “คชโยธี” ขึ้นพูดเวทีไทยภักดี แต่ไม่วายขอแซะ ว่าอยู่กับพวกอนุรักษ์นิยม

ล่าสุดคชโยธี เกม เฉียบเเหลม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้กลับ ระบุว่า “ฝากถึง บ.ก​ ลา​ยจุดใครกันเเน่ฟังเต่สื่อข่าวปลอมใครที่ผิดผมโต้เเย้งเลยว่าคุณยังให้เด็กม.ต้นที่จะจบ ยังเเสดงความคิดเห็นได้เลย​ คนอย่างคุณ​ ทำไรหัดมีสมองหน่อยก่อนโดนเด็กถอนหงอกที่ละเส้นสองเส้น

ผมพูดผิดเเล้วไงดีกว่าจังพังบ้านเมือง​ ใครกันเเน่​ ครับคุณบ.กลายจุด​ เเล้วอีกอย่างผมไม่ได้จดมาสะหน่อย​ พูดรอบเดียว​ บอกผมฟังเเต่สื่อปลอมผมขอโต้ว่า ( ไอ้เรื่องคุณที่ปัญญาออ่นมันจริงไหม​ สอนเด็กเยาวชนให้เกลียดชาติ​บ้านเมืองเกลียดสถาบันนี่มันจริงไหมเเปลว่าคุณกำลังยุยงให้มันล้มสถาบันสิ )

พรรคเกียน​ อยากเปลี่ยนให้เป็นพรรคนอนอยู่บ้านเถอะ​ ไร้สาระ​ให้ข่าวปลอม​ เเก่เด็กนักศึกษา​ คุณบอกว่ามีสิทธิพวกคุณ​ นี้ก็สิทธิผมไหม​ งดโง่หัดกินปลาทูเยอะๆๆก็ได้ฉลาด​ สื่อทีวี 22 ดีกว่าเยอะนะครับ
ทีวีที่ไหนจะออกข่าวปลอมบ้าป่าวถ้ายังไม่เปิดก็จอดำ​ ถ้าเปิดมันก็เเสดง​ มันโกหก​มันปลอมตรงไหนวะ​
#พรรคไร้สาระ
#พรรคนอนอยู่บ้านเถอะ
#บกลายจุดไร้สาระ ”