จากที่วันนี้(31ส.ค.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานสัมมนา Global Compact Network Thailand และกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “วิถีคิดผู้นำในสถานการณ์วิกฤต ประสบการณ์จากสถานการณ์โควิด – 19” โดยมีบางช่วงที่สำคัญนั้น
“ทราบว่า UN โกลบอลคอมแพ็ก เป็นโครงการหนึ่งของสหประชาชาติ ที่ส่งเสริมให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกใช้นโยบายในการดำเนินกิจการโดยเน้นความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น พร้อมสนับสนุนให้ภาคเอกชนดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักการที่เป็นสากล 10 ประการของ UN โกลบอลคอมแพ็ก ทั้งในด้านสิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต ซึ่งเป็นหลักการที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญด้วยอยู่แล้ว
ยินดีที่ปัจจุบันสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทยมีสมาชิกกว่า 50 บริษัทเข้าร่วมด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศของเราให้ดีขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 และในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตระหนักดีว่า สิทธิมนุษยชนเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของสังคมและธุรกิจ การเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นหลักการที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญและปฏิบัติ
รัฐบาลไทยจึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมุ่งหวังแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว ตนภูมิใจที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan: NAP) เมื่อปี 2562
รัฐบาลจะเปิดให้มีการประเมินผลงานภาครัฐ โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง ให้ทุกคนสามารถประเมินผลการทำงานของรัฐว่า ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนตามที่เขาคาดหวังหรือไม่ เพื่อกำจัดสิ่งที่ทำแล้วไม่มีประโยชน์ออกไปให้ได้มากที่สุด ดังนั้น สิ่งที่ผมจะทำให้เกิดขึ้นเป็นอันดับต่อไปคือ สนับสนุนให้ประชาชนมีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลรับทราบโดยตรงได้ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตนมั่นใจว่า ประเทศไทยจะสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วภายหลังวิกฤตโควิด-19 คือ ความร่วมแรงร่วมใจอย่างเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยทุกคน นโยบายรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศให้กลับมาดีกว่าเดิม มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ การระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศ
“เมื่อเราเริ่มทำงานในแบบใหม่ก็อาจมีเสียงคัดค้าน หรือการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น ผมพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกคน โดยเฉพาะเยาวชน เพราะผมเชื่อมั่นว่า เราต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้น ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมภารกิจรวมไทยสร้างชาติไปพร้อมๆกัน
ผมมั่นใจว่า วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยของเรายิ่งแข็งแกร่ง มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นกว่าเดิม และมีบทบาทในการสนับสนุนประชาคมโลกเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เราทุกคน ทั้งคนไทย ประเทศไทย และทุกประเทศทั่วโลก จะต้องร่วมแรงร่วมใจกัน คิดใหม่ ทำใหม่ สร้างสรรค์วิธีการทำงาน และวิถีชีวิตแบบใหม่ เพื่อที่เราจะสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว