จากที่ศาลนครศรีธรรมราช ตัดสินพิพากษามีความผิดจริงให้จำคุกนายเทพไท เสนพงศ์ และ นายมาโนช เสนพงศ์ คนละ 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปีคดีทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเมื่อปี2557
ต่อมาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ประกันตัวชั่วคราว นายเทพไท พร้อมน้องชาย คนละ 2 แสนบาท โดยเจ้าตัวยังมั่นใจความบริสุทธิ์ และขอต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ทั้งนี้มีความน่าสนใจเกี่ยวกับสถานะความเป็นส.ส.ของนายเทพไท เสนพงศ์ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถูกศาลพิพากษาให้จำคุก
โดยเมื่อเปิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในส่วนการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามมาตรา 101 สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ
(6) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98
มาตรา 98 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(4) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96 (1) (2) หรือ (4)
มาตรา 96 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
(2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
ทั้งนี้จึงเป็นการตั้งข้อสังเกตไว้ถึงความเป็นส.ส.ของนายเทพไท ว่ายังคงมีสภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่หรือไม่??? โดยหากดูจากกรณีคำพิพากษา น่าจะส่งผลให้นายเทพไท พ้นจาก ส.ส. ไปแล้วหรือไม่ เพราะเหตุขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101 (6) ประกอบ มาตรา 98(4) และมาตรา 96 (2) อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตุ จะเป็นตามข้อเท็จจริงนี้หรือไม่ อาจต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความก็น่าจะมีความชัดเจนที่ถูกต้องขึ้น
ด้านนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความถึงคดีดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กด้วยว่า
วันนี้ที่ 28 สิงหาคม 2563 ศาลนครศรีธรรมราช ได้อ่านคำพิพากษาคดีอาญาระหว่าง นายพิชัย บุณยเกียรติ โจทก์ นายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 นายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557
โดยพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุก จำเลยทั้งสองคนละ 2 ปี กับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยทั้งสองมีกำหนดสิบปี
ที่มา : เฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng
