ประธาน นปช. ย้ำจุดยืนชัดเจน การเมืองไทย ระบอบประชาธิปไตย ต้องมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขเท่านั้น!!
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ทำการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ค Jatuporn Prompan – จตุพร พรหมพันธุ์ ในรายการ peace talk เพื่อทำการตอบโต้ หลังถูกกล่าวหาว่าสู้ไปกราบไป จึงทำให้การเคลื่อนไหวต่อสู้ของ นปช.จึงไม่สำเร็จ ทั้งนี้ นายจตุพร ได้กล่าวว่า แนวทางของ นปช.นั้นเป็นไปตามอุดมการณ์ยึดระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งนอกเหนือจากจุดยืนนี้แล้ว ไม่เอาด้วยเด็ดขาด
ข้อหา สู้ไปกราบไป จึงไม่ชนะ
Posted by Jatuporn Prompan – จตุพร พรหมพันธุ์ on Monday, August 24, 2020
อย่างไรก็ดี นายจตุพร กล่าวว่า นปช. เป็นองค์กรทางการเมือง ไม่ใช่ทางการทหาร เมื่อถูกอีกฝ่ายใช้ทางการทหารมาปราบ เราจึงแพ้ แต่คนที่ประชดแดกดันไม่ได้ออกมาร่วมต่อสู้ด้วย เอาแต่แอบอยู่หลังตู้เย็น คอยเขียนยุยงหน้าจอคอมพิวเตอร์ อีกทั้ง แม้การต่อสู้เมษา-พฤษภา 2553 แพ้ทางการทหาร มีคนตายร่วมร้อย และบาดเจ็บ 2,000 ชีวิต แต่กลับชนะทางการเมือง โดยพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งปี 2554
เมื่อมาถึงการต่อสู้ในพฤษภา 2557 ที่ถนนอักษะ ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะอยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลที่ไม่มีสภาพปกครองประเทศ ส่วน กปปส.ชุมนุมยาวนานร่วม 200 วัน และยังมีกองทัพยืนอยู่เคียงข้างกันด้วย กระทั่งมีประกาศใช้กฎอัยการศึก ทหารเรียกกลุ่มขัดแย้งทางการเมืองเจรจาที่สโมสรทหารบก วิภาวดี แต่ไม่สำเร็จ แล้วก็เกิดการยึดอำนาจขึ้น
“ถามว่ามีอะไรที่ไม่ทำบ้าง มีข้อหาอะไรที่นักต่อสู้ถูกคดีแล้วผมไม่ถูกคดีบ้าง ที่เล่าให้ฟังเพราะปลายทางของ นปช.คือ ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เป็นอุดมการณ์หลัก และยึดแนวทางนี้มาโดยตลอด ใครให้เราเปลี่ยนจุดยืนนี้ ผมไม่ไปด้วย” จตุพร ระบุ
ส่วนการแก้ไข รธน.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า มีบางพรรคถอนตัวจากยื่นญัตติแก้ รธน. มาตรา 256 ของพรรคฝ่ายค้าน โดยพรรคนั้นอ้างว่า ไม่มีแก้หมวด 1-2 และไม่บอกว่าจะทำอย่างไร เอาแต่มโนว่า จะไปอภิปรายในสภา
“ผมสงสัยว่า ต้องการความสำเร็จในการแก้ รธน.หรือไม่ หรือต้องการแค่เป็นกระแสสังคมพูดกันไปมา แล้วประชดแดกดัน นปช.ว่า สู้ไปกราบไป อยากรู้ว่า พวกคุณทำอะไร ดังนั้น เราจะสู้ตามวิธีการ แนวทางของเรา ใครจะมาบงการอะไรเรา ผมย้ำว่า 3 ข้อเรียกร้องเป็นสิ่งสำคัญ และผมต้องการให้พลังคนหนุ่มสาวชนะ โดยไม่มีเสียเลือดเนื้ออีกแล้ว” จตุพร จุดยืนของผมเหมือนเดิม และจะทำหน้าที่แก้ รธน. ให้เป็นฉบับประชาชน และดีไม่น้อยกว่าปี 2517 และฉบับ 2540 ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นจริง อีกทั้งไม่แข่งขันกันสร้างจินตนาการและความเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งการแก้ รธน.ขณะนี้เราไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น ขอเพียงระหว่างทางแก้ รธน.ต้องไม่เบี้ยวกัน” จตุพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ย้ำว่า อยากสื่อสารว่า เราเป็นองค์กรที่มีจุดยืนชัดเจน และตนสนับสนุนการต่อสู้ 3 ข้อ 2 จุดยืน 1 ความฝันของ นศ. เป็นสิ่งที่คนไทยรับกันได้ ถ้าดึงไปนอกเหนือจากจุดยืนนี้ ตนไม่เอาด้วย
