ลุงรัชชัยย์ นายกส.บ.ม.ท. ฝากจม.เปิดผนึกถึงหนู ๆ นักเรียน หลังบอก “ครูบ้าอำนาจค-ไม่ใช่พ่อแม่คนที่ 2”

0

บนเฟซบุ๊กชื่อ “ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ” ของ ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนหลายแห่ง ในฐานะนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

จดหมายเปิดผนึกถึงเด็ก ๆ ทุกคน ถึงเด็ก ๆ ทุกคนครับ ลุงอ่านข่าวที่เด็ก ๆ พูดว่า “ไอ้ครูบ้าอำนาจ ครูไม่ใช่พ่อแม่คนที่ 2 ทุกคนมีพ่อแม่คนเดียว” อ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอเพราะลุงเคยเป็นครูมาก่อน แต่ก็นึกในใจว่าโชคดีที่ลุงเกษียณอายุราชการแล้วไม่ต้องมาเครียดกับบรรยากาศแบบนี้เมื่อไปโรงเรียน ลุงขออนุญาตเป็นตัวแทน ผู้ประกอบวิชาชีพครู โดยอยากจะบอกและถามเด็ก ๆ ว่า

1. ต้องการให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูวางตัวแบบไหนครับลองบอกมานะครับ
1.1 เป็นเพียง Tutor (ผู้สอน)เมื่อถึงเวลาก็เข้าสอน ตั้งใจสอนเต็มที่ ใครจะเข้าเรียนหรือไม่เข้าเรียนก็ไม่ไปยุ่ง ใครจะแต่งตัวอย่างไรก็ไม่ต้องสนใจ ใครจะทุกข์จะโศกหรือมีปัญหาครอบครัวอย่างไร มีกินมีใช้เพียงพอหรือไม่ก็ไม่สนใจไม่ก้าวล่วง ทุกคนต้องแก้ปัญหาชีวิตของตนเองด้วยตนเอง ถึงเวลาก็ต้องมาสอบและต้องทำข้อสอบให้ผ่าน ถ้าสอบตกก็มาสอบซ่อมกัน ถ้าสอบซ่อมไม่ผ่านก็ต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำในช่วงปิดภาคเรียนหรือไม่ก็มาเรียนซ้ำวิชากับนักเรียนรุ่นน้อง

ใครจะสอบได้สอบตกก็เป็นไปตามความรู้ความสามารถ ความรักความเมตตาที่จะมีให้ก็เป็นไปตามมาตรฐานของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น ไม่ทำมากไปกว่าบรรดาติวเต้อร์ทั้งหลายในสถาบันกวดวิชาต่าง ๆ “ผู้สอน” จะวางอุเบกขาในทุก ๆ เรื่อง จะทำหน้าที่ติวเต้อร์ให้ดีที่สุด จะรีบมาทำงานตั้งแต่ 08.00 น. และจะรีบกลับไปดูแลลูกเเละครอบครัวทันทีเมื่อถึงเวลา 16.00 น.

จะไม่มีเวลาที่จะดูแลนักเรียนคนใดเป็นพิเศษเพราะครอบครัวสำคัญกว่า และการปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้น ๆ เสร็จสิ้นแล้ว การไหว้การสวัสดีถ้าจะมีก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่ดีในฐานะเด็กสวัสดีผู้ใหญ่ ไม่ใช่ในฐานะผู้มีพระคุณต่อกัน หรือไม่ไหว้ไม่สวัสดีก็ได้ จะเสนอให้ยกเลิกประเพณีไหว้ครู ไม่ต้องมีการทำเวรความสะอาด ไม่ต้องท่องศัพท์ ไม่มีการบ้าน จะเสนอให้ยกเลิกคณะครุศาสตร์ทุกสถาบันเพราะไม่จำเป็นต้องให้มีการปลูกฝังให้คนที่ทำหน้าที่เป็น “ผู้สอน” รักและห่วงใยนักเรียน อีกต่อไป ที่สำคัญคือ เด็ก ๆ ต้องไปทำความเข้าใจให้พ่อแม่และผู้ปกครองให้ความยินยอมที่จะเป็นไปตามข้อตกลงข้อนี้ด้วยนะครับ

1.2 เป็น Teacher (ครู) คือ เป็นครูด้วยจิตวิญญาณที่มีความรัก ความเมตตา ความห่วงใยต่อนักเรียนเหมือนเป็นลูกของตัวเอง เมื่อนักเรียนไม่มีกิน ก็แบ่งปันช่วยเหลือให้ เมื่อเจ็บไข้ก็พาไปส่งหาหมอ เมื่อมีทุกข์ก็จะไม่รีรอ กุลีกุจอหาหนทางให้ คลี่คลายไป

ศีลธรรมจรรยาก็ต้องสร้างหาหนทางให้มีชีวิตใหม่ เป็นชีวิตดี ๆ ในวัฒนธรรมไทย ปลูกฝังให้รับผิดชอบต่อทุกการ
ถ้าต้องการให้ผู้ประกอบวิชาชีพครู เป็นไปตามข้อ 1.2 เด็ก ๆ ต้องให้ความรักและเคารพ “ครู” ด้วยใจ ถึงจะทำตามข้อ 1.2 ได้ ประเด็นนี้เป็นเงื่อนไขที่สำคัญ! ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเลือก ข้อ 1.1

ครู” ไม่เคยหยิ่งทะนงว่าตนเองมีความสำคัญมากกว่าคนวิชาชีพอื่น แต่ “ครู” ภาคภูมิใจและดีใจที่เห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ

2. ลุงเชื่อว่า สิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการให้เปลี่ยนแปลงคือ ให้จัดการอย่างเด็ดขาดกับ “ครูไม่ดี” หรือผู้ที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็น Teacher ก็เป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจต้องเร่งรีบจัดการอย่างเด็ดขาด และอยากให้เด็ก ๆ เข้าใจเพิ่มเติมว่า “ครูไม่ดี” แบบนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับ ครู จำนวน 700,000 คน

3. ลุงเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความรู้ ได้รับความรัก ได้รับความใส่ใจจากคุณครู ได้รับไม้เรียวที่หวดลงที่ก้นของลุงจนทำให้ลุงหวาดเกรงไม่กล้ากระทำผิด ไม่กล้าละเลยต่อสิ่งที่ถูกต้อง ไม่กล้าขาดความรับผิดชอบ แต่ลุงก็ไม่เคยโกรธคุณครูเหล่านั้น เพราะพระคุณของครูจึงทำให้ลุงมีโอกาสดี ๆ ในทุกวันนี้ แต่ลุงก็ไม่ได้หมายความว่าจะเรียกร้องให้ระบบการลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีกลับมาอีกนะครับ

อย่างไรก็ตามลุงเข้าใจนะครับว่าโลกในอนาคตคืออนาคตของเด็ก ๆ ดังนั้นต้องให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมคิดด้วย ข้อเสนอแนะของเด็ก ๆ นั้น ลุงรับฟังทุกประเด็นขอเพียง เป็นข้อเสนอแนะที่สุภาพและมีเหตุผลเท่านั้นนะครับ

ปรารถนาดีต่ออนาคตของชาติเสมอ ลุงรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย 21 สิงหาคม 2563

จดหมายเปิดผนึก ถึงเด็กๆทุกคนถึง เด็กๆทุกคนครับ ลุงอ่านข่าวที่เด็กๆพูดว่า “ไอ้ครูบ้าอำนาจ ครูไม่ใช่พ่อแม่คนที่ 2…

Posted by รัชชัยย์ ศรสุวรรณ on Friday, August 21, 2020

ที่มา : ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ