กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทั่วโลกจับตามองอีกครั้ง เมื่อนักการทูตคนสำคัญของเกาหลีใต้ อ้างข่าวที่ได้รับรายงานมาว่า นายคิมป่วยอาการโคม่า และ คิม โยจอง วัย 33 ปี จะได้ขึ้นทำหน้าที่ผู้นำแทนในช่วงเวลาที่พี่ชายไม่สามารถออกมาปรากฎตัวต่อสาธารชนได้
โดยนายชาง ซงมิน อดีตผู้ช่วยของ คิม แดจุง ประธานาธิบดีผู้ล่วงลับของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า นายคิมอาการแย่ลงเรื่อย ๆ จนตอนนี้อยู่ในอาการโคม่า แม้ว่าเกาหลีเหนือจะเพิ่งปล่อยภาพการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ที่นายคิมนั่งบัญชาการอยู่ และแต่งตั้งให้น้องสาวเข้ามามีบทบาทหน้าที่มากขึ้น แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ไม่อาจยืนยันว่าเป็นภาพอัพเดตหรือไม่ ที่สำคัญนายคิมไม่ได้ออกงานพบปะสาธารณชนเลยในปีนี้
“การเตรียมสืบทอดอำนาจอย่างเต็มรูปแบบเริ่มดำเนินการแล้ว คิม โยของ จะได้เข้ารับอำนาจหน้าที่ช่วงสุญญากาศนี้ แต่จะไม่อยู่ในระยะยาว”
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม จะมีข่าวลักษณะเดียวกันว่านายคิมอาการหนัก หรือถึงขั้นเสียชีวิตไปแล้ว สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือจึงปล่อยภาพนายคิมเดินทางไปเปิดงานตัดริบบิ้นที่โรงงานปุ๋ยออกมาเพื่อหวังสยบข่าวลือ แต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผล
ทั้งนี้ทางด้านนายฮา แท-กยอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ ได้เผยกับสื่อมวลชนว่า สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ ให้การกับสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่านายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แบ่งอำนาจสั่งการส่วนหนึ่งให้กับนางสาวคิมโยจอง น้องสาวของตน ซึ่งอำนาจส่วนหนึ่งที่ว่านี้ รวมถึงการจัดการกับความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้และสหรัฐ กลายเป็นผู้บัญชาการอันดับ 2 ของเกาหลีเหนือในทางปฏิบัติ
ตัวแทนจากสำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้รายนี้มองว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวน่าจะมีขึ้นเพื่อลดภาระงานของนายคิมจองอึน แต่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะปัญหาสุขภาพของผู้นำเกาหลีเหนือรายนี้แต่อย่างใด “นายคิม จองอึน ยังมีอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้อำนาจบางส่วนถูกส่งต่อ (ให้กับน้องสาว) ทีละนิดๆ แล้ว”