จากกรณีในโซเชียลมีการแชร์ภาพขณะที่ครูและนักเรียนกำลังยืนประจันหน้ากัน ซึ่งหลายคนแสดงความเห็นระบุว่า เป็นภาพขณะที่ครูทำร้ายร่างกายเด็ก(ตบเด็ก) ขณะที่คนอีกกลุ่มวิจารณ์ว่าเด็กก้าวร้าวเอามือชี้หน้าครู นั้น
โดยมีข้อความว่า “กล้าตบหนูหรอคะ!! ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว เด็กสมัยนี้เขาจะถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและความเสมอภาคมากกว่า ต่างจากยุคสมัยก่อนที่ครูชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ดังนั้นครูสมัยนี้ก็ต้องเปลี่ยนแนวคิดปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยด้วย ถึงจะเป็นที่เคารพของเด็ก ๆ อย่าใช้แต่อารมณ์ปรามเด็กแบบครูยุคเก่า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายประหยัด ไทยเสน รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารทั่วไป โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ช่วงหลังโรงเรียนเลิกมีกลุ่มนักเรียนชาย-หญิง ประมาณ 50-60 คน ออกมารวมตัวกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยไม่มีการแจ้งขออนุญาตใช้สถานที่ เว้นระยะห่างตามความถูกต้องเหมาะสม
ตนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์จึงเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับนักเรียน ว่าสามารถแสดงออกได้ แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสม ซึ่งควรแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ ถ้าหากต้องการแสดงออก แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ขอให้ไปทำกิจกรรมด้านนอกโรงเรียน เพราะโรงเรียนเป็นสถานศึกษา ไม่ใช่เวทีการเมือง ตนจึงขอให้ยุติกิจกรรมภายในโรงเรียน และขอเก็บป้ายผ้าเอาไว้แต่นักเรียนไม่ยินยอม
ด้าน น.ส.เอ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.6 เปิดเผยว่า นักเรียนรุ่นน้อง ๆ ตั้งแต่ชั้น ม.1- ม.4 ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มทวิตเตอร์ออกมารวมตัวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยมีการถือป้ายผ้าขาว กระดาษและติดโบว์ต้านเผด็จการ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไร เพราะต้องเข้าใจว่าทุกคนมีสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายที่กระทำได้
“วันดังกล่าว รอง ผอ.ได้เข้ามาห้าม ไม่ยอมให้ทำกิจกรรมภายในโรงเรียน ส่วนภาพที่ลงในโซเชียล เป็นการเจรจาระหว่าง รอง ผอ. กับตัวแทนกลุ่มนักเรียน โดยรอง ผอ.ยกมือขอร้องให้ออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นการเจรจากัน ยกมือบอกให้ออกไปด้านนอกไม่ได้ยกมือจะตบตามที่โซเชียลลงแต่อย่างใด”
ที่มา : ไทยโพสต์
