อยากให้ยุบสภาหรอ? งงในงง ‘เทพไท’ ปชป.เชียร์ม็อบปลดแอก

0

เทพไท-ประชาธิปัตย์ โหนลูกๆแก๊งค์ปลดแอก ยอมรับ 3 ข้อเรียกร้อง

จากกรณีกลุ่มเยาวชนประชาชนปลดแอก ได้รวมตัวชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาล ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำดำเนินกลาง และได้มีการตั้งข้อเรียกร้อง 3 ข้อได้แก่1.รัฐบาลต้อง “หยุดคุกคามประชาชน” ที่ออกมาใช้สิทธิและเสรีภาพตามหลักประชาธิปไตย2.รัฐบาลต้อง “ร่างรัฐธรรมนูญใหม่” ที่มาจากเจตจำนงของประชาชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนอย่างแท้จริง 3.รัฐบาลต้อง “ยุบสภา” เพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกผู้แทนของตนได้อีกครั้งโดยตั้งอยู่บน 2 หลักการที่ว่า จะต้องไม่มีการรัฐประหารและการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ภายใต้ 1 ความฝันคือ การมี “ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ” อย่างแท้จริงนั้น

ล่าสุด นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าได้ติดตามการชุมนุมและรับฟังการปราศรัยเป็นระยะๆพบว่า มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย น่าชื่นชม และการปราศรัยบนเวที ก็เป็นไปด้วยความตื่นเต้นสนุกสนาน

แกนนำการชุมนุมได้คัดเลือกผู้ปราศรัยมาเป็นอย่างดี ไม่มีการปราศรัยในลักษณะจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยทุกคนคาดหวังไว้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมได้กลับมายืนยันข้อเสนอเดิม โดยมีการเรียงลำดับเป็นข้อเสนอใหม่คือ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน 3.ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน หลังจากมีรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว ซึ่งเป็นข้อเสนอที่น่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง

ส่วนการประกาศจุดยืนอีก3ข้อ คือ ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ และสนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ก็ยังเป็นจุดยืนที่ยังอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งประชาชนทั่วไปน่าจะรับข้อเสนอทั้งหมดได้

อยากให้แกนนำผู้ชุมนุมได้ควบคุมสถานการณ์การชุมนุม และเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนการชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็สามารถนำข้อเรียกร้องไปสู่ประสบความสำเร็จได้

ส่วนตัวในฐานะที่เป็น ส.ส.คนหนึ่ง ก็จะทำหน้าที่ตามบทบาทและหน้าที่ของตัวเองที่มีอยู่ โดยจะผลักดันจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นจริงในทางปฏิบัติ ซึ่งในวันพรุ่งนี้(วันอังคาร) มีการประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ จะนำเสนอให้พรรค พิจารณาเห็นชอบในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมา โดยการแยกเสนอร่างออกเป็นแต่ละประเด็น แต่ละร่าง แต่ละฉบับ

เช่น ร่างแก้ไขมาตรา 256  ร่างตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ร่างแก้ไขระบบการเลือกตั้ง เพื่อให้ ส.ส.ของพรรคจำนวน 52 คนได้ลงชื่อในแต่ละร่าง และจะประสานงานกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เห็นด้วยกับร่างแต่ละฉบับของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอเสียงสนับสนุนลงชื่อให้ครบจำนวน 100 คน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (1) เพื่อนำไปยื่นต่อประธานรัฐสภา ไม่อยากจะให้ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญยืดเยื้ออีกต่อไป ไม่ต้องรอรายงานผลการศึกษาของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 อย่างเป็นทางการ

เพราะยังเหลือเพียงการสรุปรายงานเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเพียงงานด้านธุรการเท่านั้น เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองสุกงอมมากแล้ว ก็ควรจะเร่งรีบแก้ไขให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการปลดล็อคการชุมนุมทางการเมืองในตอนนี้อีกด้วย