จากที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเยาวชนปลดแอก ซึ่งถูกแจ้งความเอาผิดในข้อหาตามมาตรา 116 โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ 15 ส.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า ตนมาติดตามดูความเรียบร้อยก่อนนำตัวนายพริษฐ์ ส่งไปฝากขังศาลอาญา ถนนรัชดา ตามกรอบเวลาควบคุมตัว 48 ชั่วโมงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยเวลา 08.12 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายพริษฐ์ไปฝากขังยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าตัวกล่าวว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฏร์จงเจริญ” พร้อมชูสามนิ้ว
ขณะทางด้าน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังตำรวจ 400 นาย มาดูแลความสงบเรียบร้อย สื่อมวลชนที่ผ่านเข้ามาในบริเวณศาลได้จะต้องมีบัตรกรมประชาสัมพันธ์ ส่วนประชาชนทั่วไปต้องผ่านการคัดกรองเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในบริเวณศาล นอกจากนี้ยังมีจุดคัดกรองข้างในอีก 1 ชั้น บริเวณหน้าธนาคารออมสินสาขาศาลยุติธรรม มีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบทำหน้าที่คัดกรองอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา กล่าวว่า ในการส่งตัวนายพริษฐ์ ฝากขังศาลอาญาวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้คัดค้านการให้ประกันตัว อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับศาลที่ต้องใช้ดุลยพินิจ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานมาตามสมควรเพราะว่าเหตุเกิดตั้งแต่ 18 กรกฎาคม และนำพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณา ซึ่งศาลก็พิจารณาว่ามีหลักฐานถึงออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการตามหมายจับ ตำรวจพิจารณาตามพยานหลักฐาน เราไม่มีนโยบายว่าจะจับใครหรือไม่จับใคร เมื่อมีการจัดกิจกรรมขึ้นก็ดูและรวบรวมพยานหลักฐาน หากองค์ประกอบเข้าก็ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนใครจะถูกแจ้งข้อหาใดบ้างนั้นก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่การทำกิจกรรมในวันนั้น ๆ บางคนได้ทำบางสิ่ง บางคนก็ไม่ได้ทำบางสิ่ง ยืนยันไม่หนักใจ เพราะได้ดำเนินการตามพยานหลักฐาน
ส่วนการรวมตัวชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้(16 ส.ค.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าว่า ขอให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะและมาตรการควบคุมโรค พร้อมขอให้ทำกิจกรรมอยู่ในกรอบและระมัดระวังเกี่ยวกับการควบคุมโรค ขอให้ทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตำรวจมี 2 หน้าที่ คือ ดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและดูแลไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตของบุคคลอื่น ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ผมว่าผู้ทำกิจกรรมก็ต้องเข้าใจดีว่าอันไหนทำได้หรือทำไม่ได้ ขอร้องให้ดำเนินการในกรอบของกฎหมาย เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและความเดือดร้อนของบุคคลอื่น ไม่กังวลเพราะดำเนินการตามกฎหมาย ผมเข้าใจว่าผู้ชุมนุมก็เข้าใจ
