ธนาธรรับแล้ว2ปีอยากพูดแบบนศ.แต่ไม่กล้า ขู่รบ.ไม่ถอยสูญเสียเลือดเนื้อ

0

จากที่กลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์รังสิตจัดเวทีปราศรัยฉายภาพโปรเจคเตอร์รูป สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 2 ผู้ต้องหาลี้ภัย และมีข้อความสัญลักษณ์ที่ส่อดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งข้อเรียกร้อง 10 ข้อนั้น

ล่าสุดวันนี้(14ส.ค63) เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ ได้โพสต์ข้อความ พร้อมวีดีโอรายการ เจาะประเด็นโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ / อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ซึ่งมีการสัมภาษณ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาพร้อมข้อเรียกร้องทั้ง10ข้อ โดยมีเนื้อหาบางส่วนว่า

ทั้งนี้นายธนาธร กล่าวว่า การชุมนุมของนักศึกษา คือ เอาเรื่องที่ทุกคนพูดกันในที่ลับ มาพูดในที่สาธารณะได้ นับว่า เป็นความกล้าหาญของพวกเขา แม้แต่ตนเองก็ยังไม่กล้าหาญเท่านักศึกษา โดยยอมรับว่า ตลอดสองปีที่ผ่านมา จะพูดถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันก็ต่อเมื่อถูกถามเท่านั้น

สำหรับข้อเสนอ 10 ข้อของนักศึกษา ที่ถูกมองว่าแหลมคมเกินไป เพราะไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน เป็นข้อเสนอที่ผลักแนวร่วมให้ถอยห่างหรือไม่ โดยนายธนาธร บอกว่า การสูญเสียแนวร่วมอาจเกิดบ้าง แต่ที่สังคมเห็นตลอดหลายวันที่ผ่านมา คือการที่นักวิชาการ ดาราศิลปินจำนวนมากออกมาแสดงจุดยืนร่วมกับนักศึกษา นี่จึงไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่เสียแนวร่วม แต่คือ การนำความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนใจออกมาพูดในที่สาธารณะเสียที

“อยากเรียกร้องสังคมให้พูดกันด้วยเหตุผล และมองเรื่องนี้อย่างมีวุฒิภาวะ เมื่อแต่ละคนมีจินตนาการอันสดใสของประเทศไทยในภายภาคหน้าที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องพูดคุยกันเพื่อให้เข้าใจปัญหา การพูดคุยกันอย่างเปิดเผยไม่ใช่อาชญากรรม การพูดคุยอย่างเปิดเผยคือสิ่งที่สังคมที่มีวุฒิภาวะต้องทำ แต่เราก็ต้องยอมรับความจริงว่า มีคนที่ไม่สบายใจเวลาพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเวลาเราขอให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเปิดใจรับฟัง นอกจากการใช้เหตุผลแล้ว เราก็ต้องบอกกันเองว่า เราต้องสื่อสารด้วยความเห็นอกเห็นใจ การสื่อสารกันด้วยเหตุผลย่อมดีกว่าการสื่อสารกันด้วยอารมณ์”

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังกล่าวฝากไปถึงผู้มีอำนาจ เวลานี้ทุกคนต้องถอยคนละก้าว ไม่มีใครได้ 100% ไม่มีใครอยากเห็นการสูญเสียเลือดเนื้อ ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่คิดถอย ไม่ประนีประนอม มันอาจไปถึงจุดนั้นได้ ทุกคนต้องถอยและใช้สติ โดยรูปธรรมของการถอยคือการแก้รัฐธรรมนูญ มานั่งคุยกันว่าจะเอาอย่างไร เดินหน้าไปอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่าคนที่ไม่พอใจ คนที่ตื่นรู้ทางการเมือง และต้องการเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง มีมากเกินกว่าที่รัฐจะปราบปรามหรือทำเป็นไม่รับรู้ว่า มีอยู่

ที่มา : เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ