หลังจากที่ในเฟซบุ๊กของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้โพสต์ข้อความด้วยว่า ” ตนเองโดนแจ้งความข้อหามาตรา 112 แล้ว ที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองเลย
ภายหลังที่มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เหตุเกิดที่ อ.เมืองเลย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 เวลา 18.00 น ต่อมานายพริษฐ์ โพสต์ข้อความอีกว่า นอกจากที่เลยแล้ว ได้ยินว่ามีคนแจ้งจับผมข้อหามาตรา 112 กับ 116 ที่ตรังเหมือนกัน #ยกเลิก112″
ทั้งนี้ในช่วงเวลา 16.00 -22.00 น. ของวันนี้ (14 ส.ค.63) เพนกวิน ประกาศจะมาขึ้นเวทีปราศรัยที่ท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรีด้วย พร้อมยังท้าท้ายด้วยว่า “เจอกันท่าน้ำนนท์ครับ ยิ่งห้ามผมพูดผมจะยิ่งพูด ยิ่งปิดปากเสียงจะยิ่งดัง คนรักประชาธิปไตยเจอกันครับ! #กลัวที่ไหน #ให้มันจบที่รุ่นเรา #ยกเลิก112” รวมทั้งก่อนหน้านี้เจ้าตัวยังได้โพสต์จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่าเป็นประเด็นที่สร้างปัญหา
ล่าสุดนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุถึงเรื่องนี้ว่า อย่าให้เกิดสงครามกลางเมือง
น่าสนใจว่า ปัญหาของไทยทุกวันนี้พัฒนาการไม่ไปไหน เพราะเรามีนักการเมืองเลว โกงกิน คอรัปชั่นเชิงนโยบาย แต่นักศึกษากลับไปกล่าวโทษสถาบัน ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับสถาบัน ซึ่งอยู่เหนือการเมือง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองใด ๆ
พวกมีแอกเคลื่อนไหวไม่ผิดจากขบวนการเรดการ์ดในจีน ที่ทำลายล้างสถาบันครอบครัว วัฒนธรรม ความเชื่อ แม้แต่พ่อแม่ของตนเอง
ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ มั่นใจได้ต่างชาติต้องแทรกแซง จีนจะสร้าง One Belt ส่วนอเมริกาอยากจะปิดล้อมจีน
ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ พลาดจากฮ่องกงแล้ว เหลือไทยที่เดียวที่สนิทสนมกับจีนมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ไทยจึงกลายเป็นสนามข่วงชิงอิทธิพล
สงครามกลางเมืองในซีเรีย คือตัวอย่างของการแข่งอิทธิพลของมหาอำนาจที่ถือหางคนละฝ่าย ผลคือประชาชนล้มตาย อพยพออกนอกประเทศ
พวกมีแอกประกาศจะให้จบในรุ่นของเรา ถึงต้องเร่งร้อน กำลังเล่นกับไฟ โหมไฟให้ลุกโชน ระวังไฟจะมอดไหม้ตัวเอง ไม่อยากให้ตราบาปติดตัวจนตายเพราะคิดผิด ถอนตัวยังทัน
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Nantiwat Samart