จากกรณี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ริมตลิ่งแม่น้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบได้วางกำลังเพื่อรับมือกลุ่มประชาชนที่จะมารวมตัวกันตามการนัดหมายของกลุ่มพิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ
โดยทางกลุ่มระบุว่า กิจกรรมเป็นรูปแบบแฟลชม็อบ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องรวมตัวกันอย่างรวดเร็วและเข้าพื้นที่พร้อมกันในเวลา 16.00 น. สถานที่ คือ ตลิ่งริมน้ำน่าน เป็นสถานที่สาธารณะ ทุกคนสามารถเข้าไปนั่งได้โดยไม่ผิดกฎหมายใด ๆ การแจกอาหาร คือแจกขนมซ่าหริ่ม จะกระทำไม่ได้เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อไม่ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับผลกระทบจากการใช้กฎหมายดังกล่าว มาเป็นข้ออ้างในการจับกุมผู้เข้าร่วมกิจกรรม
ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำขนมซ่าหริ่มมาเอง และนำมาเผื่อคนอื่นด้วย ทั้งนี้ การแจกขนมซ่าหริ่มยังคงมีอยู่ แต่จะต้องมอบให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นคนจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน ได้รวมตัวกันตามที่มีนัดหมาย โดยมีการแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ชูป้ายที่เขียนข้อความแสดงความคิดตามเหตุผลส่วนตัวเพียง 1 แผ่น พร้อมเรียกร้องไม่ให้รัฐบาล-ตำรวจ คุกคามประชาชน และแสดงจุดยืน ออกแถลงการณ์เรื่องการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ทั้งหลายของประชาชนชาวไทยทุกคน ย้ำใน 3 ข้อเรียกร้อง
คือ 1.แก้รัฐธรรมนูญ 2.ยุบสภา 3.หยุดคุกคามประชาชน โดยไม่มีแกนนำมาปราศรัย มีเพียงนักศึกษาผู้ช่วยพยาบาลของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งพร้อมกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์เท่านั้น ไม่มีการแจกขนมซ่าหริ่ม และทางกลุ่มนักศึกษาได้สลายตัวไปในเวลา 18.00 น.
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เยาวชนแกนนำที่จะจัดกิจกรรมในจังหวัดพิษณุโลกหายตัว ติดต่อไม่ได้ 3 คน
