จากกรณีวันที่ 4 ส.ค.2563 เมื่อเวลา 18.00 น. ตรงกับเวลาในประเทศไทย 22.00 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณคลังสินค้า ที่ท่าเรือในกรุงเบรุต (Beirut) ประเทศเลบานอน 2 ครั้งซ้อน โดยครั้งที่สองห่างจากครั้งแรก 15 นาที
ทั้งนี้ จากเหตุระเบิดก่อให้เกิดกลุ่มควันสีแดง และกลุ่มควันรูปดอกเห็ดสูงหลายร้อยเมตรเหนือท้องฟ้ากรุงเบรุต อาคารบ้านเรือนในรัศมี 10 กิโลเมตร ได้รับความเสียหาย รถยนต์จำนวนมากถูกทำลาย ผู้คนติดอยู่ในซากอาคาร
มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 78 คน ยอดผู้บาดเจ็บกว่า 4,000 คน รวมถึงสำนักงานใหญ่ของ นายซาอัด ฮารีรี อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน และสำนักงานซีเอ็นเอ็นประจำกรุงเบรุตด้วย
ด้าน นายฮัสซัน ดิอาบ นายกรัฐมนตรีเลบานอน แถลงผ่านโทรทัศน์วันนี้ (5 ส.ค.) ว่าหน่วยงานรัฐเคยเตือนคลังสินค้าบริเวณท่าเรือกรุงเบรุตแล้วว่าเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากเก็บสารแอมโมเนียไนเตรทไว้ถึง 2,750 ตัน ตั้งแต่ 6 ปีก่อน ซึ่งหน่วยงานรัฐเคยออกมาเตือนตั้งแต่ปี 2557 แล้วว่ามีความเสี่ยงสูงมาก
นายฮัสซัน ดิอาบ กล่าวอีกว่า ตนเตรียมจะเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลังสินค้าที่ระเบิดเร็ว ๆ นี้ และแม้ว่าจะยังไม่เปิดการสอบสวนใด ๆ ในขณะนี้ แต่ก็ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาชนว่าเหตุการณ์นี้จะปล่อยผ่านไปไม่ได้ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม
อย่างไรก็ตาม บีบีซีรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีความตึงเครียดทางการเมืองในเลบานอน โดยมีการออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลต่อการจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศนับแต่เหตุสงครามกลางเมืองในปี 1975-1990 อีกทั้งยังมีขึ้นก่อนที่ศาลยุติธรรมที่ตั้งขึ้นโดยสหประชาชาติจะมีคำตัดสินคดีของ 4 ผู้ต้องสงสัยในเหตุลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีราฟิก ฮาริรี ด้วยระเบิดรถยนต์ ในวันศุกร์ที่ 7 ส.ค.นี้
โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เป็นสมาชิกกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่อิหร่านให้การสนับสนุน ซึ่งทั้ง 4 คนต่างปฏิเสธเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตเมื่อปี 2005 ของอดีตผู้นำเลบานอนมาโดยตลอด
Explosion of something like nuclear in bierut, Lebanon was killed 400 people estimation pic.twitter.com/gdCXrHepA3
— Iklas Yusuf (@iklassiddeen) August 5, 2020
ที่มา : bbc, Poetry of Bitch และ @iklassiddeen