“ไพศาล” โพสต์ 20 ตัวเบ้ง มีผวาแน่! ด้าน “วิชา มหาคุณ” รับลูก นายกฯ ประชุมคณะทำงานพรุ่งนี้ คาด พยานคดีตายผิดธรรมชาติ จากกรณี นายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานปากเอก คดี “ทายาทกระทิงแดง” บอส อยู่วิทยา ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียชีวิต ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. และ นายกฯ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอายัดศพของนายจารุชาติ เพื่อนำกลับมาชันสูตร หาการเสียชีวิตใหม่อีกครั้งให้ละเอียดรอบคอบ ไม่เป็นข้อกังขา คาใจของประชาชน
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจะอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีดังกล่าว หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง คนผิดจะต้องได้รับการลงโทษ โดยคดีนี้จะไม่เป็นที่ค้างคาใจของประชาชน นอกจากนี้ ยังต้องไปดูโครงสร้างของกระบวนการยุติธรรมด้วยว่า มีช่องโหว่หรือไม่ ควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ให้สังคมเกิดข้อกังขากับกระบวนการยุติธรรมของไทย
และล่าสุด นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และนักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ว่า
คดีรถชนตำรวจตาย บานทะโล่!!!
ตอนนี้ลามถึงพยานสำคัญในคดีตาย ถึงขั้นที่นายกต้องสั่งระงับการเผาศพ อีกแล้ว!!
อย่างน้อยตัวเบ้ง ๆ เกือบ 20 คน ผวาแน่
เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดร้ายแรงอาจติดคุกระหว่าง 20 ถึง 50 ปี และอาจถูกยึดทรัพย์ ตามกฎหมายฟอกเงินได้
ส่วนทางด้าน นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รับลูกนายกฯ เตรียมประชุมคณะกรรมการฯ พรุ่งนี้ คาด ตั้งกรอบเวลาตรวจสอบคดี 30 วัน คงเพียงพอ และต้องรายงานนายกฯ ทุก 10 วัน ด้วย
ทั้งนี้ นายวิชา ยอมรับว่า ประเทศไทยปฏิรูปมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม หรือเรียกว่าปฏิวัติหรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจ ซึ่งถึงเวลาแล้ว จะต้องเอาจริงเอาจังกับระบบกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะถึงขนาด นายกฯ สั่งการ รวบรวมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ รวมถึง คดีความมาเป็นแม่แบบ หรือต้องถอดบทเรียน หากปล่อยทิ้งไป เมื่อคณะกรรมการชุดนี้ไปนั่งสอบเฉย ๆ จะทำให้เสียเวลาเปล่า ทั้งนี้จะขออะไรที่นายกฯสามารถทำได้เพื่อประชาชน คณะกรรมการชุดนี้ก็จำเป็นจะต้องทำ
แต่ตนตั้งข้อสังเกต ผู้เสียชีวิตมีการตายแบบผิดธรรมชาติ จึงต้องมีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวหรือไม่อย่างไร เพราะอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอยู่แล้ว เว้นแต่จะไม่ทำเท่านั้น เชื่อว่าหากไม่ทำเรื่องนี้ให้คลายความสงสัย จะทำให้เกิดปัญหาแน่นอน