จังหวะคดีกำลังวุ่น? ลูกสาวพยานปากเอกช่วย “บอส อยู่วิทยา” เปิดใจ ก่อนรู้ข่าวพ่อเสียชีวิตกะทันหัน

0

จากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศได้มีการเปิดเผยว่า อัยการสูงสุดประเทศไทยได้ทำการสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง ในข้อหาเมาแล้วขับ ทำให้ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งาน ป.สน.ทองหล่อเสียชีวิต

ต่อมามีรายงานว่า นายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต ที่ จ.เชียงใหม่ โดยทางญาติ เปิดเผยว่าเที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งว่า นายจารุชาติ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แชร์สนั่นโซเชียล!! “จารุชาติ มาดทอง” ชื่อตรงพยานสำคัญ พลิกคดีไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน!?!

ล่าสุดทางด้านน.ส.ตะวันฉาย มาดทอง อายุ 15 ปี ลูกสาวของนายจารุชาติ เปิดเผยว่า วันนี้มารับศพพ่อ ซึ่งไม่ได้เจอกันมานานหลายเดือน ล่าสุดที่เจอกันคือวันเกิดของตนเอง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเป็นครั้งเดียวที่เจอกัน เพราะคุณพ่อทำงานไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ล่าสุดพึ่งไปทำงานที่ไต้หวันอยู่ 3-4 ปี จนกลับมาทำงานที่ จ.เชียงใหม่ และมาเสียชีวิตในที่สุด ส่วนเรื่องคดีที่พ่อมีส่วนเกี่ยวข้อง ยอมรับว่าไม่ทราบเลยเพราะพ่อไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง และไม่เคยรู้ว่าพ่อไปเป็นพยานในคดีต่าง ๆ


ส่วนญาติกันเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นญาติข้างบ้าน ทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เมื่อก่อนทำงานอยู่กรุงเทพฯ และ 3-4 ปีหลัง ได้ไปทำงานที่ไต้หวัน จนล่าสุดทราบข่าวว่ามาทำงานใน จ.เชียงใหม่เป็นพนักงานขับรถ แต่ไม่ทราบว่าทำงานที่ไหน และลักษณะงานเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องอุบัติเหตุยังไม่ทราบรายละเอียด

นายจารุชาติ ถือเป็น 1 ใน 2 พยานในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนดาบตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ซึ่งชื่อของนายจารุชาติ เพิ่งถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าเป็นหนึ่งในพยานที่ทำให้อัยการไม่สั่งฟ้องคดี เพราะ นายจารุชาติ ยืนยันว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์นายวรยุทธขับรถด้วยความเร็วแค่ 50-60 กม./ชม. ขณะที่พยานอีกคน คือ พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร โดยทั้งคู่ไม่ใช่พยานใหม่ที่เพิ่งมาปรากฏตัว 7 ปี หลังเหตุการณ์ แต่ทั้งคู่เคยให้การมาแล้วเมื่อเกิดคดีใหม่ ๆ เมื่อปี 2555


ทั้งนี้เมื่อดูในเอกสารส่วนหนึ่งคำสั่งไม่ฟ้องที่ปรากฏเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ปรากฏชื่อของพยานทั้งคู่ให้การ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562 ทั้งคู่อ้างว่าขับรถตามหลังในช่วงเกิดเหตุการณ์ โดยพบว่า ด.ต. วิเชียร ขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม. ต่อชม.อยู่ในเลนที่ 1 แล้วเปลี่ยนเลนกระทันหัน ผ่านหน้ารถพยานคนหนึ่งในเลนที่ 2 จนต้องหักหลบ และรถจักรยานยนต์ ข้ามไปยังเลนที่ 3 ที่ นายวรยุทธ ขับมาด้วยความเร็ว ไม่เกิน 80 กม. ต่อ ชม. จนเกิดชนท้ายและ ด.ต.วิเชียรถึงแก่ความตาย


เหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ใช่ความประมาทปราศจากความระมัดระวังของนายวรยุทธ แต่เกิดจากความประมาทของ ด.ต.วิเชียร จึงมีผลในการสั่งไม่ฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ในโลกออนไลน์ตอนนี้ ต่างมีการตั้งคำถามถึงเรื่องที่พยานปากเอกในคดีเสียชีวิต ทำให้ #บอสอยู่วิทยา บนทวิตเตอร์ กลับมาติดเทรนด์อันดับแรก และมีคอมเม้นต์ระบุว่า ทำไมเหตุการณ์นี้ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ , มีการสั่งฆ่าปิดปากหรือไม่ , บังเอิญจนน่าขนลุก , เป็นพยานให้คนขับรถชนคนตายรอด ตัวเองโดนรถชนตายแทน