“ม.ล.จีริหทัย กิติยากร”เผย ม.ล. วิวาทวัดไอ้ไข่ เป็น “กิติยากร”ปลอม เตรียมแจ้งความ

ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ไพฑูรย์ อินทศิลา โพสต์ข้อความ เปิดความคืบหน้า กรณี ผู้อ้างว่าเป็น “ม.ล.ธนิต กิตติยากร” ปัญหาทะเลาะวิวาทโต้เถียง ระบุถูกเจ้าหน้าที่วัดคุกคามข่มขู่

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊ค ไพฑูรย์ อินทศิลา  ระบุว่า…จากกรณีที่ผู้ที่อ้างว่าเป็น มล.ธนิต กิติยากร ได้โพสต์ภาพ/คลิปและข้อความในเฟซบุ๊ก “tanit kittiyakara” ว่าพร้อมคณะไปไหว้ของพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองนครศรีธรรมราช เราไปเกือบทุกวัดตั้งแต่วัดพระมหาธาตุ วัดพ่อท่านคล้าย วัดหน้าพระธาตุ วัดสระสี่มุม วัดเขาคา สุดท้ายมาจบที่วัดเจดีย์ ในคณะของผมทุกคนได้เช่าวัตถุมงคลของทุกวัดรวมถึงไอ้ไข่ของวัดพระมหาธาตุวัดสระสี่มุม เมื่อมาถึงวัดสุดท้ายวัดเจดีย์ ลูกชายของพี่ถือลงจากรถโดยความไม่รู้ว่าวัดเจดีย์ห้ามนำวัตถุมงคลจากที่อื่นเข้ามา และคณะของผมพึ่งจะมาครั้งแรกเลยไม่ทราบเรื่องนี้

สุดท้ายมีเจ้าหน้าที่ผู้ชาย 2 คนสืบทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพลเรือนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาดึงเอาถุงวัตถุมงคลไปจากเด็กแล้วขู่ว่านำไอ้ไข่ปลอมเข้าวัดเจดีย์จะดำเนินคดีและฟ้องร้อง ซึ่งไอ้ไข่ที่เด็กถือลงไปนั้นเราเช่ามาจากวัดพระมหาธาตุและวัดสระสี่มุม แล้วเราก็เช่าของวัดเจดีย์ด้วย ดั่งเหตุการณ์ดั่งกล่าวคณะของผมถูกคุกคามข่มขู่ จนพี่เสื้อขาวและพระอาจารย์เลขาสมเด็จ ฯที่นำเรามาต้องออกโรงปกป้องคณะเราที่มา ตั้งใจจะมาทำบุญมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้สิ้นศรัทธาไปเลย และยังโพสต์คำถามโจมตีวัดและเจ้าอาวาสอีกหลายประการ กระผม มล.ธนิต กิติยากร 1 ในคณะที่ร่วมเดินทางโดยหลังการโพสต์เผยแพร่มีชาวโลกโซเชี่ยลจำนวนมากเข้ามาชมและติดตามพร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

ในขณะที่พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) กล่าวว่า อาตมาขอเรียนชี้แจงตามข้อเท็จจริงว่า อาตมาไม่ทราบว่าคณะที่มามีใครบ้าง เพราะเขาไม่ได้แจ้งมาให้ทราบล่วงหน้า ตามปกติหากผู้หลักผู้ใหญ่เดินทางมาที่วัด โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ในคณะสงฆ์จะแจ้งให้อาตมาหรือทางวัดทราบล่วงหน้าเพื่อทางวัดจะได้เตรียมการต้อนรับตามความเหมาะสม แต่คณะของท่าน “มหาจินดา” ไม่ได้แจ้งให้ทราบใด ๆ ดังนั้นเมื่อเข้ามาในวัดทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบวัดที่วางไว้ โดยเจ้าหน้าที่ของวัดเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปที่เขาอาจจะพูดแข็งกระด้างตามแบบฉบับคนปักษ์ใต้ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนกร่างและข่มขู่คุกคามตามที่ถูกจอมโจมตี เขาทำตามกฎของวัดที่วางไว้ หากไม่ทำก็กลัวอาตมาตำหนิว่าปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งภาพเหตุการณ์ในวันดังกล่าวมีวงจรปิดจับภาพทั้งหมดไว้ได้ แต่ในวงจรปิดไม่ได้ยินเสียงพูด แต่คลิปที่เขานำไปเผยแพร่ก็เห็นชัดว่าใครข่มขู่ใครกันแน่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่วัดเจดีย์พบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนยังแห่กันมากราบไหว้ไอ้ไข่เด็ดวัดเจดีย์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและแนะนำอย่างละเอียดตั้งแต่ประตูทางเข้าวัด นอกจากนี้ยังมีปป้ายขนาดใหญ่ตัวหนังสือสีแดงติดไว้บริเวณทางเข้าวัดและตามจุดต่าง ๆ เห็นได้ชัดเจนความว่า “สิ่งที่ควรทราบ นำไปปฏิบัติ”ห้ามนำวัตถุมคล ทุกชนิด เข้าไปทำพิธี หรือ วางหน้าโต๊ะสักการะ ไอ้ไขเด็กวัดเจดีย์ ทำพิธีบวงสรวง บ่งบอกถึงขั้นตอนการทำวัตถุมงคลที่ทำขึ้นมา โดยการแอบอ้าง ที่ทางวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) ไม่อนุญาติใครฝาฝืน ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎ ของทางวัดเจดีย์ ไอ้ไข่จะมีการดำเนินคดี ตามเหตุสมควรต่อไปขอประกาศให้ทราบและถือปฏิบัติโดยทั่วกัน วัดเจดีย์ ( ไอ้ไข่ )

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อกราบไหว้ขอพรไอ้ไข่ส่วนใหญ่จะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นและมีการปล่อยคลิปและข้อความเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของวัดเจดีย์มีปัญหาทะเลาะวิวาทโต้เถียงกับคณะตามที่อ้างว่าเป็น มล.ธนิต กิตติยากร ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ข่มขู่คุกคามว่าจะดำเนินคดีกับเด็กในคณะที่นำวัตถุมงคลไอ้ไข่จากวัดอื่น ๆ เข้ามาวางที่รูปปั้นไอ้ไข่เพื่อถ่ายภาพ และคนส่วนใหญ่มองว่าทางวัดมีการติดป้ายขนาดใหญ่แจ้งถึงกฎระเบียบของทางวัดไว้ชัดเจนแล้วการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการฝืนกฎระเบียบของวัด และจากการตรวจสอบในคลิปที่เผยแพร่ส่วนใหญ่เป็นคนในคณะของผู้ที่อ้างว่าเป็นหม่อมหลวงเป็นฝ่ายพูดจากตะคอกเสียงดัง ชี้หน้าข่มขู่เจ้าหน้าที่ ในขณะที่ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็พยายามชี้แจงด้วยถ้อยคำสุภาพ คลิปจึงขัดแย้งกับข้อความที่โพสต์อย่างชัดเจน

ในขณะที่หม่อมหลวงจีริหทัย กิติยากร ซึ่งใช้เฟซบุ๊ก “Jaiya Kitiyakara”ได้ติดต่อสื่อมวลชนผ่านทางแชทเฟซบุ๊กและไลน์พร้อมชี้แจงและขอให้ช่วยประสานแจ้งตำรวจและเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ว่าคนที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ “กิติยากร” ปลอม ไม่ใช่ของจริงตระกูลกิติยากรจะแจ้งความเอาเรื่องและกรุณาแจ้งเจ้าอาวาสว่าไม่ต้องกลัวทางนี้ปรึกษาตำรวจผู้ใหญ่เพื่อแจ้งความเอาเรื่องแล้ว เจ้าอาวาสไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่แอบอ้างเป็น “กิติยากร” คนดังกล่าวได้เลยและช่วยแจ้งตำรวจนครว่าหากต้องการพยานก็ขอให้บอกและติดต่อมานะเราจะไปเป็นพยานให้ว่าคนคนนี้แอบอ้างเป็น ม.ล. เป็นหม่อมหลวงกำมะลอ ซึ่งนามสกุลของเราภาษาอังกฤษเขียน “Kitiyakara” มันคงรู้กฎหมายเขียนให้คล้าย ๆ เข้าใจผิด โดยเติมตัวทีเพิ่มเข้าไปอีก 1 ตัวเป็น “Kittiyakara” ส่วนตัวยย่อ ม.ล. เขาก็เขียนเป็น มล.

 

ขอบคุณ ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ไพฑูรย์ อินทศิลา