สุรนันทน์ยันบริสุทธิ์ใจ ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ หลัง ‘ปปช.’ ชี้มูลคดีจัดอีเวนต์ 240 ล้าน เผยเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม

0

สุรนันทน์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ยันบริสุทธิ์ใจ ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ หลัง ‘ปปช.’ ชี้มูลคดีจัดอีเวนต์ 240 ล้าน เผยเชื่อมั่นว่า กระบวนการยุติธรรม

จากกรณีที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี  รวบรัดจ้าง 2 บริษัทสื่อจัดอีเวนต์โปรโมต “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020”  วงเงิน 240 ล้าน  อนุมัติโดยมิชอบ ขณะที่2สื่อดัง  ผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ,นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากทางด้าน นายสุรนันทน์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า…ตามที่คณะกรรมการ ปปช.ได้แถลงกรณีการดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนาและการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งของประเทศให้แก่สาธารณชนทราบ ภายใต้ชื่อ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” โดยมิชอบ โดยมีผมซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในช่วงวันเวลาดังกล่าว เป็นผู้หนึ่งที่ถูกชี้มูลความผิด เป็นผู้ถูกกล่าวหาโดย คณะกรรมการปปช. ด้วย นั้น

ผมขอยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ในตำแหน่งหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความระมัดระวัง อย่างรอบคอบ ยึดถือกฎหมายและระเบียบ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นและคำนึงถึง ประโยชน์ของรัฐและประชาชน เป็นที่ตั้ง

การปฏิบัติหน้าที่ ของผม ในส่วนที่เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ผมได้ยึดถือ และปฏิบัติตาม ระเบียบและกฎหมาย อย่างเคร่งครัด ทุกประการ

ทั้งนี้ภายหลังที่ผมพ้นจากตำแหน่งแล้วได้มีการตราวจสอบจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีข้อสรุปว่าการจัดจ้างดำเนินโครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020 ถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ และได้อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณตามโครงการดังกล่าว โดยไม่มีหน่วยงานใดทักท้วง

ณ ปัจจุบันนี้ ผมมีสถานะเป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่ง ตามวรรคสองของรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 บัญญัติให้สันนิษฐาน ไว้ก่อนว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีความผิด เพราะจะต้องมีการพิสูจน์ ความถูกผิดกันในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

จึงขออนุญาตเรียนข้อเท็จจริง ดังกล่าว ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ทั้งนี้ผมเชื่อมั่นว่า กระบวนการยุติธรรมขั้นต่อไป ทั้งสำนักงานอัยการสูงสุดและกระบวนการทางศาล จะให้ความเป็นธรรมและประสาธน์ความยุติธรรมแก่ผมและผู้ที่ถูกกล่าวหาท่านอื่นด้วย อย่างแน่นอน

ตามที่คณะกรรมการ ปปช.ได้แถลงกรณีการดำเนินการจัดนิทรรศการ…

Posted by Suranand Vejjajiva on Wednesday, July 22, 2020