จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่นสำโรงใต้ กว่า 30 คน ยกพวกตีกันในโรงพยาบาล และทำร้ายเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน แพทย์ พยาบาล เพราะไม่พอใจที่รักษาช้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายรัชต์พงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) และผู้ได้รับบาดเจ็บ ข้าวของในโรงพยาบาลพังเสียหาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นแล้ว 15 ราย พร้อมนำตัวผู้ต้องหา 15 รายไปยื่นฝากขังผัดแรกศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลไม่ให้ประกันตัวและได้นำตัวไปคุมขังเรือนจำกลางสมุทรปราการ
โดยเจ้าหน้าที่แบ่งเป็น 3 คดี โดยคดีแรกที่ซอยโรงเหล็กแบ่งเป็น 2 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บโดยมีอาวุธของแหลมมีคม, และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
คดีที่ 2 ที่โรงพยาบาลวิภาราม-ชัยปราการ 2 ข้อหา คือ ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ
คดีที่ 3 ที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ 3 ข้อหา คือ ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ,
ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยมีอาวุธ และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
ขณะที่ทางด้าน พล.อ.ท.นพ.ชูพันธ์ ชาญสมร ผอ.โรงพยาบาลวิภาราม-ชัยปราการ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์หญิงธนิกานต์ สู่พานิช ซึ่งเป็นผู้ทุ่มเทในการช่วยเหลือ โดยช่วยยื้อชีวิตนานกว่า 50 นาที หลังไม่มีชีพจรก่อนมาถึงโรงพยาบาล และถูกวัยรุ่นหนึ่งในแก๊งทำร้ายร่างกาย
“คุณหมออยู่ในอาการขวัญหนีดีฟ่อ ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งยังไม่แน่ชัดว่าจะกลับเข้ามาทำงานภายในสถานที่นี่อีกหรือไม่ พร้อมทั้งพยายามปลุกขวัญกำลังใจเพราะเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนบุคลากรที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ยังคงต้องสร้างขวัญและกำลังใจเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้บุคลากรทั้งหมดเกิดความเชื่อใจนั้นต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องไม่มีผู้ใดก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก และผู้กระทำต้องถูกลงโทษอย่างสาสม”
ด้าน นพ.รังษี ทีระศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ซ่อมแซมความเสียหายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ความเสียหายแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ทางกายภาพ และทางด้านจิตใจ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติแล้ว
ที่มา : หมอแล็บแพนด้า
