ศาลฏีกายืนสั่งจำคุกปิยรัฐคดีฉีกบัตรประชามติรธน. ปิยบุตรโผล่ให้กำลังใจ

0

จากที่วันนี้ (21 ก.ค.63) ศาลจังหวัดพระโขนง นัดพิพากษาคดีฉีกบัตรประชามติ จากกรณีฉีกบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะเข้าไปลงคะแนนเสียงของโตโต้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559 โดยอ้างถึงการแสดงออกค้านทำประชามตินั้น

ก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 61 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีฉีกบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ ปี 2560 คดีหมายเลขดำ 5952/2559 ที่พนักงานอัยการพระโขนง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ จงเทพ นายกสมาคมเพื่อเพื่อน และแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง, นายจิรวัฒน์ เอกอัครนุวัฒน์ และนายทรงธรรม แก้วพันธุ์พฤกษ์ เป็นจำเลยที่ 1-3

ในความผิดฐานทำลายเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188, ทำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 และกระทำผิด พ.ร.บ.การออกเสียงร่างประชามติฯ มาตรา 59, 60 (9)

โดยจากกรณีเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559 อันเป็นวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายปิยรัฐ เดินทางไปยังคูหาลงคะแนนเสียงที่เขตบางนาและฉีกบัตรลงคะแนน เพื่อแสดงออกว่าไม่ยอมรับการลงประชามติที่ปราศจากความชอบธรรม ภายใต้การใช้อำนาจควบคุมการแสดงออกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

โดยนายทรงธรรมกับนายจิรวัฒน์เป็นผู้ถ่ายคลิปวิดีโอการฉีกบัตรดังกล่าว สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสามฐานกระทำการวุ่นวาย แต่ส่วนที่มีการฉีกบัตรประชามตินั้น นายปิยรัฐให้การรับสารภาพว่ากระทำจริง

ศาลจึงพิพากษาลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ พิพากษาจำคุกเฉพาะนายปิยรัฐ 4 เดือน ปรับ 4,000 บาท จำเลยรับสารภาพ ศาลลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปีโดยในวันนี้จำเลยทั้ง 3 เดินทางมาศาล

ภายหลังศาลมีคำพิพากษา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทีมทนายความจำเลย เปิดเผยหลังได้ทราบผลคำพิพากษาว่า คดีนี้เดิมศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายปิยรัฐ 2 เดือน ฐานทำลายเอกสารราชการ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3 แต่มาวันนี้ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทั้ง 3 คน ร่วมก่อความวุ่นวายในเขตการเลือกตั้ง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การออกเสียงร่างประชามติฯ จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 6 เดือน จำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือคนละ 4 เดือน โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 2 ปี ซึ่งในส่วนจำเลยที่ 1 จะโดน 2 ข้อหาคือ ฉีกบัตรเลือกตั้งกับก่อความวุ่นวาย เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ศาลอุทธรณ์เลยลงบทหนักสุดบทเดียวคือก่อความวุ่นวาย

นอกจากนี้ นายกฤษฎางค์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ตัวจำเลยทั้ง 3 ยืนยันว่าจะยื่นฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อ จะต้องไปปรึกษากันก่อนว่าจะยื่นฎีกาในแง่มุมไหน ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าสิ่งที่จำเลยทำไม่ใช่การก่อเหตุความวุ่นวายในเขตเลือกตั้ง ซึ่งนายปิยรัฐยอมรับว่าได้ฉีกบัตรจริง แต่การกระทำไม่ใช่การก่อความวุ่นวาย เป็นการแสดงออก อีกทั้งจำเลยที่ 2-3 ไม่ได้อยู่ในเขตการเลือกตั้ง แต่ศาลอุทธรณ์มองว่ามีการนัดหมายกันไปจึงพิพากษาลงโทษ

ล่าสุดวันนี้(21ก.ค.63) นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ ได้เดินทางมาพร้อมนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เพื่อมาฟังคำพิพากษาในศาลฏีกาในคดีดังกล่าว ซึ่งภายหลังการฟังคำตัดสินนายปิยรัฐ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้ศาลฏีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุกตนเองคดีฉีกบัตรประชามติ 4 เดือน โดนโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้1ปี ส่วนจำเลยที่2กับ3 ศาลสั่งจำคุก คนละ 2เดือน โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้1ปีเช่นกัน รวมทั้งปรับคนละ2พันบาทด้วย