รองโฆษกอสส.งัดข้อกม.วิจารณ์ โจ๋บุกรพ.ชกหมอ ย้อนคดีเก่าเป็นตัวอย่าง นอกจากติดคุกหัวโต ยังต้องใช้หนี้ท่วมหัวด้วย

0

จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น​สำโรงใต้ กว่า 30 คน ยกพวกตีกันในโรงพยาบาล และทำร้ายเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินแพทย์ พยาบาล เพราะไม่พอใจที่รักษาช้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายรัชต์พงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) และผู้ได้รับบาดเจ็บ ข้าวของในโรงพยาบาลพังเสียหาย

ต่อมา ทางด้านของ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้เปิดเผยว่าในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ในเบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีทั้ง 2 กลุ่ม ในข้อหา “ร่วมกันทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ” ในส่วนของกลุ่มที่ยกพวกมาทำร้ายภายในโรงพยาบาล จะดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา ร่วมกันบุกรุกสถานพยาบาลในยามวิกาล , ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ซึ่งทางด้านของ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทรยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้เปิดเผยว่า ในคดีรูปแบบนี้เคยเกิดขึ้นมากแล้วก่อนหน้านี้ และศาลจะพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา เพราะถือว่า มีพฤติการณ์ร้ายแรงไม่ยำเกรงกฎหมาย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เตรียม ติดคุกหัวโต!?! รองโฆษก ตร. จัดให้ 5 ข้อหาหนัก กลุ่มโจ๋สุดถ่อยบุกรพ. ชกหมอ-พยาบาล

ล่าสุดทางด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เเละผอ.โครงการในพระดำริฯ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีวัยรุ่นทำร้ายแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาลเเห่งหนึ่งที่จ.สมุทรปราการ สาเหตุเพราะไม่พอใจที่เข้าใจผิดไปว่า แพทย์ที่รักษาเพื่อนช้าทำให้เพื่อนเสียชีวิต ว่า คดีทำร้ายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ผ่านมา พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานหนักและไม่รอลงอาญามาหลายสำนวนแล้ว

เพราะโรงพยาบาลควรเป็นสถานที่ซึ่งปลอดภัยที่สุด คราวนี้กลับกระทำต่อบุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ใครคิดกระทำอีกขอให้เลิก ก่อนนี้เคยมีคดีวัยรุ่นเมาในสถานบันเทิงชอบใช้กำลังโดยเฉพาะในโรงพยาบาล พวกนี้อยากกร่างก็ให้สุด แต่ให้ไปหยุดที่เรือนจำ อัยการฟ้องหนักแน่เตรียมก้มหน้ารับกรรมที่ก่อไว้ คดีจำพวกนี้ศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญามาแล้ว กับเหตุตีกันในโรงพยาบาล เพราะก่อนหน้านี้ศาลมีคำพิพากษาอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด

ศาลจังหวัดอ่างทองจำคุกวัยรุ่น 9 คนที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิงจนบาดเจ็บ มีผู้นำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง แต่คู่กรณียังไม่เลิก ตามมาทำร้ายกันในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอ่างทองจนอุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหาย คดีนั้นศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน รับสารภาพเหลือ 3 เดือน พฤติการณ์ร้ายแรงไม่ยำเกรงกฎหมายศาลจึงไม่รอลงอาญา

โรงพยาบาลต้องเป็นสถานที่กู้ชีพฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้ป่วย และปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย พฤติกรรมใหญ่โต ทำทรัพย์สินของราชการเสียหาย ตีทำร้ายในโรงพยาบาล เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่สุด ที่ผู้ปกครอง พ่อแม่ของวัยรุ่นทั้งหลาย ควรกำชับและดูแลลูก ถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อนเพราะลูกที่เกเรของคุณเอง โรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิด

จากนี้ไปกล้องและพยานบุคคลต่าง ๆ จะเป็นหลักฐานเอาผิดกับวัยรุ่นที่กร่างให้สุดจะได้ไปอยู่ที่เรือนจำเหมือนวัยรุ่นที่ก่อเหตุที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ อัยการจะพิจารณาบรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมที่ท้าทายกฎหมายใหญ่โตไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก หรือฟ้องขอให้เพิ่มโทษหากมีประวัติเก่ามาแล้ว นอกจากคดีอาญาเเล้วยังโดนฟ้องคดีแพ่งเรียกสินไหมทดแทนได้อีก

“ขอร้องให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลานของท่านให้เป็นคนดีอย่าเกเร จะได้ไม่ต้องทุกข์เพราะลูกหลานติดคุก จะเสียประวัติ เสียโอกาสในการทำงาน วันนี้คนประวัติดี ยังหางานทำยาก เสียประวัติแล้วโอกาสในสังคมแทบไม่มีเหลือต่อไป ดูแลลูกหลานให้เป็นคนดีกัน”