สหรัฐฯว่าไง?? ดูเตอร์เตประกาศใช้กม.ต่อต้านก่อการร้าย!! ทนายและกลุ่มสิทธิฯค้านกดขี่สิทธิเสรีภาพ แจ้นส่งหนังสือแจงสภาคองเกรส

0

ปธน.ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ลงนาม“กฎหมายต่อต้านก่อการร้าย” (The Anti-Terrorism Act) และมีผลบังคับใช้ ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานทูตฟิลิปปินส์ประจำสหรัฐอเมริกา ส่งหนังสือถึงสมาชิกสภาสหรัฐ 50 คนชี้แจง  กรณีการประกาศบังคับใช้ที่มีผลในวันเสาร์(18 ก.ค.2563) ว่า จะปกป้องเสรีภาพทางการเมืองและสิทธิมนุษยชนในประเทศ ในขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษย์ชนฟิลิปปินส์ ประณามว่า กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้ามและจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก

เอกสารชี้แจงว่า ฟิลิปปินส์ยังคงยึดมั่นต่อการปกป้องเสรีภาพพลเมืองและเสรีภาพทางการเมือง กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายบัญญัติไว้อย่างหนักแน่นว่า สิทธิมนุษยชนจะต้องสมบูรณ์ครบถ้วนและได้รับความคุ้มครองตลอดเวลา กฎหมายฉบับนี้เป็นเครื่องแสดงว่า

รัฐบาลฟิลิปปินส์มีความแน่วแน่อย่างยิ่งที่จะต่อต้านการก่อการร้าย จะใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมในการจัดการกับภัยก่อการร้ายที่ไร้พรมแดน หนังสือของสถานทูตฟิลิปปินส์ระบุด้วยว่า กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับก่อนหน้านี้ที่ลงนามไปเมื่อปี 2550 มีผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดเพียงคนเดียวเท่านั้น

กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้  จะมีสภาที่แต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต  มีหน้าที่กำหนดให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้าย และสามารถจับกุมคุมขังโดยไม่ตั้งข้อหาได้สูงสุด 24 วัน นอกจากนี้ยังมีอำนาจอนุญาตให้สอดแนม ดักฟัง ลงโทษผู้ก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บนด้วย 

กลุ่มทนายความยื่นเรื่องร้องต่อศาลฎีกาว่า กฎหมายนี้อาจถูกนำไปในทางมิชอบเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล และกดขี่การแสดงความเห็นต่างอย่างสันติ

ขณะที่ประธานาธิบดี ดูเตอร์เต ซึ่งลงนามกฎหมายเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายืนยันว่า ประชาชนที่เคารพกฎหมายไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะกฎหมายนี้มุ่งจัดการผู้ก่อการร้ายและกลุ่มก่อความไม่สงบที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์เท่านั้น

ฟิลิปปินส์เพิ่งเปลี่ยนท่าทีต่อสหรัฐ จากที่ประกาศเลิกสัมพันธ์กับสหรัฐต้นปี แล้วกลับลำมาขอคืนดี จะทบทวนสัญญากระชับสัมพันธไมตรีใหม่อีกครั้ง เมื่อเกิดกรณีพิพาท ในทะเลจีนใต้กับจีน เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้  ทั้งนี้ต้องรีบส่งหนังสือชี้แจงกฎหมายสำคัญของตนเองที่ผ่านสภาฯ แล้ว ประกาศบังคับใข้ไปตามขั้นตอนตามกฎหมายแล้ว

หลังจากนี้ท่าทีของสหรัฐฯ ทั้งสภาผุ้แทนราษฏร, วุฒิสภา และผู้บริหารรัฐบาลปธน.โดนัลด์ ทรัมป์จะมีท่าทีตอบรับอย่างไร  จะแข็งกร้าว หรือวางเฉย เพราะสหรัฐอ้างเหตุผลล่วงล้ำประเทศอื่นด้วย ข้ออ้างประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด ท่ามกลางกระแสตึงเครียดในน่านน้ำทะเลจีนใต้ คงจะได้คำตอบว่า ระหว่างอุดมการณ์กับผลประโยชน์สหรัฐเลือกอย่างไหน?

…………………………………………. 

https://www.reuters.com/article/us-philippines-security/philippines-defends-anti-terror-law-before-us-congress-idUSKBN24J06T

https://www.usnews.com/news/world/articles/2020-07-18/philippines-defends-anti-terror-law-before-us-congress