แฮกเกอร์สหรัฐฉกเงินดิจิทัล-คริปโตเคอเรนซี ผ่านบล็อคเชน ได้เงินไป 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากบัญชีลูกค้า 400 คน ใน 130 บัญชี มีคนดังและเศรษฐีทั้งนักธุรกิจและนักการเมืองโดนแฮกเรียบ ทำช็อกทั้งวงการ เพราะหาที่มาที่ไปคนทำไม่ได้ เอฟบีไอและตำรวจเร่งติดตาม แต่เกรงจะเหมือนกรณีที่ผ่านมาเพราะ โลกดิจิทัลไร้ร่องรอย ทุกอย่างทำขึ้นชั่วคราวได้ทั้งสิ้น ทวิตเตอร์ชี้อาจมีคนในเกี่ยวข้อง ล่าสุดสภาคองเกรสขอให้ผู้บริหารทวิตเตอร์เข้าชี้แจง
วิธีการคืออ้างผู้มีชื่อเสียง ใช้บัญชีทวิตเตอร์แล้วชวนว่า “จะได้เงินคืนสองเท่า ให้โอนเงินดิจิทัลมา” เท่านี้คนก็หลงเชื่อเสียเงินกันไป แต่ข้อมูลไม่ได้บอกว่าเหล่าคนดังดังกล่าวแค่ถูกอ้างชื่อหรือเสียเงินไปด้วย
รายนามผู้โชคร้ายบางส่วน
- อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
- โจ ไบเดน ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงประธานาธิบดีสหรัฐ
- อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลา บริษัทรถพลังงานไฟฟ้า
- ภรรยา เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์แอมะซอน
- วอร์เรน บัฟเฟต์ นักลงทุนระดับตำนาน
- บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์
- คานเย เวสต์แร็ปเปอร์ชื่อดัง
- คิม คาเดเชียน เป็นต้น
ระดับบริษัท ได้แก่ แอปเปิล และอูเบอร์
Jack Dorsey, CEO-ผุ้บริหารทวิตเตอร์แถลงว่า เกิดเหตุเจาะระบบหรือแฮกบัญชีผู้มีชื่อเสียงที่เกิดขึ้นในเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีบัญชีถูกแฮกประมาณ 130 บัญชี แฮกเกอร์เข้าควบคุมบัญชีเป้าหมายได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น แล้วทวีตในชื่อบัญชีเหล่านั้นหลอกให้โอนเงินบิทคอยน์ให้ บริษัทกำลังเดินหน้าตรวจสอบว่า แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบัญชีเป้าหมายได้อย่างไร และย้ำว่ากำลังประสานกับเจ้าของบัญชีที่ถูกแฮก
ด้านสำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ประจำนครซานฟรานซิสโกซึ่งเป็นหัวหน้าทีมสอบสวนเรื่องนี้ระบุว่า แฮกเกอร์ในคดีนี้ทำความผิดข้อหาฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัลเข้ารหัสหรือคริปโตเคอเรนซี บันทึกบล็อกเชนที่เปิดเผยต่อสาธารณะคาดว่า แฮกเกอร์ได้คริปโตเคอเรนซีมูลค่า 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.8 ล้านบาท) จากบัญชีลูกค้า 400 รายใน 130 บัญชี โดยนักวิเคราะห์แจงว่าทำโดยแยกเป็นบัญชีบิทคอยน์ 3 บัญชีผ่านเทคโนโลยีบล็อคเชน
ทวิตเตอร์ให้ความเห็นว่า อย่างน้อย 130 บัญชีของคนดังน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของพวกแฮกเกอร์ในกรณีนี้ เลือกทั้งกลุ่มนักการเมืองและนักธุรกิจที่มีฐานะเศรษฐกิจระดับสูง แม้ขณะนี้เอฟบีไอกำลังเร่งสอบสวน แต่ธรรมชาติของคริปโตเคอเรนซียากตามรอย เพราะไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่หรือบัญชีเงินในธนาคาร
นอกจากนี้ ทางทวิตเตอร์เห็นว่าทำเช่นนี้ได้ต้องเป็นการประสานการโจมตีของวิศวกรทางดิจิทัล ภัยทางระบบโซเชียลเน็ทเวิร์คที่สำคัญคือ “การโจมตีจากภายใน”
……………………………………………
https://www.businessinsider.com/twitter-hack-what-we-know-about-whats-going-on-2020-7