สืบเนื่องจากจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไประยองให้กำลังใจประชาชน หลังเกิดเหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้าพื้นที่และเข้าพักโรงแรม แล้วไปยังห้างสรรพสินค้าในจังหวัด
ต่อมาเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เนื่องจากมีแกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายภาณุพงศ์ จาดนอก มาชูป้ายและมีข้อความหยาบคาย ที่บริเวณหน้าโรงแรม ซึ่งเป็นช่วงเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ขบวนนายกรัฐมนตรีขับเข้าโรงแรม จากนั้นตำรวจได้พยายามเจรจาขอให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยคณะนายกรัฐมนตรี แต่แกนนำทั้ง 2 คน ยืนยันที่จะปักหลักชูป้ายที่หน้าโรงแรม พร้อมกับกล่าวว่า ไม่ได้มีอะไรติดตัวมาเลย ทำไมต้องออกไปด้วย เพราะเป็นสิทธิของประชาชน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องควบคุมตัวแกนนำทั้ง2ขึ้นรถออกไปที่สภ.เมืองระยอง
- …..กรณีที่มีผู้ไปยืนถือป้ายที่มีข้อความว่า อยู่ต่อไปก็ฉิบหายออกไปอ้ายสัส ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปพบปะประชาชนที่จังหวัดระยองนั้น
…..ข้อความบนป้ายเป็นการใช้ถ้อยคำด่าพลเอกประยุทธ์ว่า เป็นสัตว์ จึงเป็นความผิดตามประมวลอาญา มาตรา ๓๙๓ ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท หรือทั้งจําท้ังปรับ
- …..การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๐
…..เมื่อเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้าเจ้าพนักงานตำรวจก็มีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิดได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗๘
…..ความผิดตาม ป.อาญา มาตรา ๓๙๓ มิใช่ความผิดอันยอมความได้ แม้ผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ เจ้าพนักงานตำรวจก็มีอำนาจจับกุมผู้กระทำความผิดได้
…..การที่เจ้าพนักงานตำรวจทำการจับกุมผู้ที่ถือป้ายและผู้ร่วมกระทำผิดจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย
…..กรณีที่มีผู้ไปยืนถือป้ายที่มีข้อความว่า อยู่ต่อไปก็ฉิบหายออกไปอ้ายสัส ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา…
Posted by Chuchart Srisaeng on Thursday, July 16, 2020