จากที่เมื่อวันที่16 มิ.ย. 63 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Tiwagorn Withiton” โพสต์ภาพตนเองใส่เสื้อสกรีนคำว่า “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” พร้อมทั้งอธิบายความหมายและเหตุผล โดยระบุว่า “‘หมดศรัทธา’ ไม่ได้แปลว่า ล้มเจ้า
ขณะที่พบว่าที่เว็บไซต์ประชาไท ได้เผยแพร่ข่าวสารไว้ระบุวันที่ 13 ก.ค. 2563 ว่า ทิวากร ผู้สวมเสื้อ ‘เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว’ ถูกควบคุมตัวเพื่อตรวจรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ แถม ตร.ยึดคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์และเสื้อที่กำลังซักอยู่ไปด้วย
ทั้งนี้ในรายงานข่าวของประชาไท ยังระบุอีกว่า หลังทิวากรไม่เคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊กติดต่อกันเป็นวันที่สาม ประชาไทติดต่อสอบถามไปยังครอบครัวของทิวากร พบว่าเขาถูกควบคุมตัวไปตรวจรักษาและประเมินอาการทางจิตตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 2563 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 6 นาย เป็นผู้ควบคุมตัว ระหว่างตรวจรักษาในโรงพยาบาลมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น คอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง มีการตรวจบัตรประชาชนผู้เข้าเยี่ยม และคอยสังเกตการณ์ตลอดเวลาขณะที่ญาติเข้าเยี่ยมทิวากร
อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ ยังเปิดเผยอีกว่า ทิวากรกล่าวกับผู้สื่อข่าวประชาไทว่า “ผมปลอดภัยดี”
นอกจากนี้ในช่วงท้ายของรายงานข่าว ทางประชาไท ระบุหมายเหตุว่า : ทิวากรเล่าว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยาบาลเข้าไปจับกุมตัวเขาในบ้าน ทิวากรปฏิเสธไม่ยอมรับการจับกุมแต่ได้มีเจ้าหน้าที่จำนวน 6 คน เข้าไปอุ้มตัวเขาออกมาทิวากรเล่าว่าหลังจากถูกนำตัวขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ผ้ามัดมือของทิวากร และฉีดยาเข้าที่บริเวณแขนของทิวากรทั้งสองข้าง
ทั้งนี้นั่นคือข้อมูลที่ทางประชาไทระบุไว้ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบโดยเข้าไปที่เฟซบุ๊ก Tiwagorn Withiton ซึ่งเป็นของ ทิวากร วิถีตน ซึ่งระบุวันเวลาการโพสต์ไว้ 5 วัน ซึ่งมีเนื้อหาว่า
เมื่อกี้ มีเจ้าหน้าที่จิตแพทย์ 6 คน จาก ร.พ. จิตเวช ขอนแก่น มาหา และคุยกับผมที่บ้าน และมีกอ. รมน. คนเดิมมาด้วยอีก 1 คน เจ้าหน้าที่จิตแพทย์ ถามผมหลายอย่างเพื่อทดสอบสุขภาพจิตผม คุยกันไม่นานมาก ไม่ถึง 30 นาทีก็เดินทางกลับ
ผมบอกเจ้าหน้าที่จิตแพทย์ไปตามตรงว่า ผมเข้าใจดีว่านี่คือการเมือง ที่ต้องการจะทำให้คนเข้าใจว่าผมเป็นบ้า ผมจะไม่ตำหนิเจ้าหน้าที่ถ้าหากมีคำวินิจฉัยว่าผมเป็นบ้า เพราะถือว่าต้องทำตามคำสั่ง
ก่อนกลับ ผมได้ยินเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ตอนนี้(น่าจะหมายถึงคนที่ออกคำสั่งให้มาหาผม)กำลัง “ร้อน” มาก แล้วก็ทำหน้าเหยเก และส่ายหัวด้วยความอึดอัด และลำบากใจ
ที่มา : เฟซบุ๊ก Tiwagorn Withiton