เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 63 เวลา 13.30 น. ณ หอประชุมเปรมติณณสูลาน์ (ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.นครราชสีมา) ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ ชุติเดช ตาบ–องค์รักษ์ ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงถึงสถานการณ์และมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า
จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดมีผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มอีก 4 ราย มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อจำนวน 343 ราย มีผู้ป่วยยืนยันโรค COVID-19 จำนวน 11 ราย (เก่า 7+ใหม่ 4 ราย) ไม่พบเชื้อ จำนวน 316 ราย นอน รพ.รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 16 ราย
ทั้งนี้ ผลจากการคัดกรองจำนวน 34,111 ราย (ยอดสะสม ณ วันที่ 3 มกราคม 2563 – วันที่ 26 มี.ค. 63 เวลา 12.00 น.) กรณีการเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ (PN) มีจำนวน 235 ราย ไม่ป่วย 235 ราย กักตัวครบ 14 วัน จำนวน 155 ราย ปัจจุบันติดตามต่อเนื่อง จำนวน 80 จากข้อมูลโปรแกรม kovid 19 korat พบว่ามีผู้ดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมาจากจังหวัดอื่น ๆ 338 ราย (การคัดกรองไข้ที่ด่านตรวจ 37.3 องศาเซลเซียสเป็นเกณฑ์)
โดยทางจังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รวมทั้งเน้นมาตรการ “ล้างมือทั้งวัน กินร้อน ช้อนฉัน ห่างกัน 2 เมตร” และสวมหน้ากากอนามัยทุกคนโดยมีมาตรการสำคัญสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดนครราชสีมาดังนี้
- ให้ผู้ทีเดินทางเข้ารายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต.เทศบาล และอสม. ได้ติดตามสำรวจ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
- ดำเนินการ HOME QUARANTINE จำนวน 14 วัน
- สังเกตอาการตนเองว่ามีไข้ไอหรือไม่หากมีอาการให้ติดต่อสถานบริการในพื้นที่ใกล้บ้าน
- ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยการ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น เป็นการสร้างสุขอนามัย การกินร้อนคือ กินอาหารสุกปรุงใหม่ ๆ การเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร (Social Distancing) เป็นการเซฟตัวเองในด่านแรก และขอให้สวมหน้ากากอนามัยผ้าทุกคน โดยเฉพาะการมาติดต่อสถานที่ราชการ
และหากประชาชนรู้สึกไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า อีกทั้งแนะนำให้บุคคลนั้นแยกกักตัวที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน หากพบว่ามีไข้คือ อุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ มีนำ้มูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ให้รีบไปพบแพทย์ โดยแจ้งเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อ หรือแจ้ง 1669 เพื่อประสานการรับตัว
เน้นให้ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้งที่ ไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัยโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และ อยู่ห่างจากคนอื่นไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร หรือ 1-2 ช่วงแขน ใช้เวลาพบปะผู้อื่นให้สั้นที่สุด แยกห้องนอน แยกของใช้ส่วนตัวไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่นเสื้อผ้าผ้าเช็ดหน้าผ้าห่มผ้าเช็ดตัวจานชามช้อนแก้วน้ำหลอดดูดน้ำโทรศัพท์
รวมทั้ง ให้แยกทำความสะอาด แยกน้ำดื่มเฉพาะ แยกสำรับอาหาร ไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัว แยกขยะที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย เช่น หน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู ให้เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อทุกวัน โดยให้ใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ทำลายเชื้อโดยราดด้วยน้ำยาฟอกขาว แล้วมัดปากถุงให้แน่น
โดยจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดสายด่วนแจ้ง –สอบถาม เรื่อง COVID-19 ทางโทรศัพท์มือถือเบอร์ : 08-1265-5604 ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และ inbox Facebook “ ตากล้อง สสจ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงก่อนมาโรงพยาบาล ว่าติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่ ด้วยแบบประเมินออนไลน์ของโรงพยาบาลราชวิถี ที่ลิงค์ : https://bit.ly/2x8LLD6 และติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ “ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter, Facebook, Line official, TikTok และ ChatBot 1422 ได้ที่ ID : @COVID-19 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง