จากกรณีวันนี้( 26 มี.ค.63) เฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan – จตุพร พรหมพันธุ์ ได้โพสต์ข้อความโดยได้แชร์มาจากเพจ Peace News ซึ่งได้เผยแพร่เนื้อหาข่าวของนายจตุพร หพรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ถึงกรณีรัฐบาลประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยเรียกร้องคนในชาติร่วมสามัคคี สร้างพลังเอกภาพ ปฏิบัติตามมาตรการทางการแพทย์แนะนำเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยเชื่อว่า เป็นหนทางทำให้ประเทศเอาชนะและรอดพ้นจากกระแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้
ทั้งนี้นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญทุกฝ่ายต้องยอมรับความจริงว่า เราเผชิญหน้ากับอะไร และต้องรับผิดชอบอย่างไร อีกทั้งประชาชนต้องรับผิดชอบต่อส่วนรวม ส่วนรัฐบาลต้องหยิบใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่สังคมเสนอไปใช้แก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เชื่อว่าวันนี้แม้ประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน แต่ประชาชนยังไม่สบายใจ ยังมีความกังวล เพราะรัฐบาลยังแก้ไขปัญหาทางใจไม่ได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายอย่าฉวยโอกาสหาเศษหาเลยทางการเมือง ต้องช่วยกันคิด ร่วมกันแก้ไขปัญหาของชาติ
“คนที่เคยฉวยประโยชน์ทางการเมืองจนได้รับความนิยมนั้น หากมาใช้ในช่วงนี้จะทำให้ความนิยมเสียหาย เพราะเวลานี้ประชาชนไม่ต้องการให้นักการเมืองมาเล่นการเมืองโดยไม่รู้กาละเทศะ และรัฐบาลต้องเป็นตัวอย่าง เอาปัญหาชาติก่อน เมื่อไม่มีโควิด-19 แล้ว เรายังทะเลาะกันทางการเมืองได้เหมือนเดิม วันนี้ไม่ใช่ว่าไม่ได้พูดทางการเมืองแล้งต้องตาย แต่วันนี้ถ้าไม่ร่วมกันแก้ไขปัญหาแล้วถึงต้องตาย
ทุกฝ่ายต้องมีวุฒิภาวะทางการเมือง โดยรัฐบาลควรแสดงให้เห็นว่า การใช้ พรก.ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขโรคระบาดโควิด-19 ไม่ใช่แก้ไขโรคระบาดทางการเมือง หากรัฐบาลใช้เพื่อแก้ไขทางการเมือง รัฐบาลย่อมล้มสลาย จะเกิดความโกลาหล จนเอาไม่อยู่ ถ้าทุกฝ่ายวางการเมืองลง ประเทศไทยสู้โควิด-19 ได้แน่ เมื่อคนไทยตัดสินใจเสียสละกัน ร่วมปฎิบัติอย่างเดียวกัน ขอเพียงให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเท่านั้น ดังนั้น วันนี้ใครคิดอย่างไรทางการเมืองให้เก็บเอาไว้ ตนคิดอะไรยังเก็บไว้ในสมอง ยังไม่ลืม เพียงแต่รู้จักกาละเทศะว่า ถ้าเอาการเมืองนำชาติพัง คนตาย”
นอกจากนี้ ประธานนปช. ยังกล่าวอีกว่า ถ้าเราสามัคคีกันเพื่อสู้กับโควิด-19 ผมเชื่อว่า เราสามารถปฏิบัติการแซงหน้าโควิดได้ พาประเทศรอดได้ ส่วนพวกเพจอวตารทั้งหลายที่จ้องแต่ด่ากันจะพาประเทศรอดได้อย่างไร กรณีการเสียกรุงศรีอยุธยาเป็นบทเรียนให้จดจำมาแล้ว รวมทั้งเชื่อว่า นับแต่พรุ่งนี้ไป (การบังคับใช้ พรก.ฉุนเฉิน) คงเห็นวิวัฒนาการ แต่การรัฐบาลจำกัดสื่อบางส่วนให้เข้ารายงานข่าวโควิดนั้น จะทำให้เกิดความเสียหาย ขอให้รัฐบาลเลิกคิดเสียใหม่ อย่าจำกัดสิทธิโทรทัศน์ทำหน้าที่สื่อสารกับประชาชน การแบ่งเช่นนี้ เคยทำมาแล้วในยามบ้านเมืองไม่ปกติช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราสู้ทางการเมืองก็สู้มาแล้ว แต่การสู้กับโรคระบาดยังมาคิดแบ่งสื่ออีกหรือ แนวคิดนี้ต้องเลิก ถ้าต้องการความสามัคคีแล้ว แนวคิดนี้ก็ใช้ไม่ได้ รัฐบาลอย่าแบ่งเขาแบ่งเรากันอีก มันใช้ไม่ได้
“แต่ในโลกความเป็นจริงความวิตกกังวลเกิดขึ้นกับคนไทยทั้งประเทศ หากทุกฝ่ายนั่งสมาธิคนละ 1 นาทีว่า เราจะช่วยชาติบ้านเมืองได้อย่างไร และจะต้องเสียสละกันบ้างอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องไม่หาเศษหาเลยทางการเมือง คือ เวลานี้หากใครพูดหาเศษหาเลยทางการเมือง ซึ่งเคยได้รับความนิยมในเวลาปกติ หากมาผิดเวลาเช่นนี้ ความนิยมที่เคยได้ก็จะสูญหาย เพราะทุกคน ณ วันนี้ไม่ต้องการให้นักการเมืองมาเล่นการเมือง โดยไม่รู้จักกาลเทศะ ดังนั้นรัฐบาลต้องเป็นแบบอย่างที่สำคัญ นักการเมืองซีกฝ่ายค้าน ภาคประชาชนก็ต้องคิดเอาชาติบ้านเมืองให้รอด เพราะถึงอย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีโควิด 19 แล้วเรายังทะเลาะกันได้เหมือนเดิม ยังเห็นต่างกันได้เหมือนเดิม เพราะวันนี้หากไม่ร่วมกันแก้ปัญหาก็จะตายกันหมด ดังนั้นการคิดเสียสละเช่นนี้ ทุกฝ่ายต้องมีวุฒิภาวะทางการเมือง”
