จากกรณีของอดีตนางเอกดัง นิ้ง กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา วัย 46 ปี หลังจากที่เจ้าตัวบอกลาวงการบันเทิง และผันตัวไปเป็นแอร์โฮเตลสายการบินดัง จู่ ๆ ก็กลับมาปรากฏเป็นข่าวดังอีกครั้งเมื่อช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยภาวะอาการป่วยที่แปลก
นิ้งได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ และต้องทำการปลูกถ่าย Stemcell ซึ่งอาจจะใช้ของตนเองหรือน้อง หรืออาจจะต้องใช้ Stemcell ของผู้ที่นำมาบริจาคผ่านทางศูนย์บริจาคโลหิตสภากาชาดไทย
ต่อมา นิ้ง กุลสตรี ได้โพสต์ข้อความลงไอจีระบุว่า “คู่ชีวิต” ที่คอยเอาใจใส่ ดูแลกันไม่ห่าง จนถึง “ปั้นปลายชีวิต” credit by.. Barry “ขอบคุณนะคะ ที่เลือกนิ้งเป็น คู่ชีวิต” และขอบคุณนะคะ ที่เลือกนิ้งเป็น เพื่อน (รูปนี้ขึ้นในเฟสซบุ๊ก ที่เคยลงเมื่อ 5 ปีที่แล้วค่ะ) **ตอนนี้กลับมาแอดมิทด่วนอีกแล้วเมื่อเย็นวันอาทิตย์ เพราะถ่ายเป็นเลือด เยอะมากพอควร แต่โชคดี เลยได้ส่องกล้องแบบเร่งด่วน ไม่ต้องรอคิววันที่ 2 ของอาจารย์หมอ เพื่อตัดชิ้นเนื้อในลำไส้ใหญ่ไปตรวจ วันนี้กำลังให้เลือดถุงที่ 4 และวิตามิน K
เพื่อทำให้เลือดแข็งตัว (ส่วนมากเป็นโรคแทรกซ้อนทั้งนั้นค่ะ โรคเลือดที่เป็น คุมอยู่ แค่ทานยา และ follow up เท่านั้น) #นิ้งขอขอบคุณทุกท่านที่บริจาคเลือดนะคะ #รักษาสุขภาพด้วยนะคะทุกคน รัก รัก กอด กอดแน่น ๆ และในระหว่างที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าตัวได้โพสต์เพลงเศร้า ที่ทำเอาแฟนคลับตกใจอย่างมาก จนได้มีคอมเม้นต์เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หายไวๆนะคะ!! “นิ้ง กุลสตรี” แอดมิทด่วน ถ่ายเป็นเลือด มีโรคแทรกซ้อนต้องตัดชิ้นเนื้อในลำไส้ใหญ่ไปตรวจ
ล่าสุด นิ้ง กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา ได้โพสต์อัพเดตอาการป่วยล่าสุดของตัวเองผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว kulsatrees โดยระบุว่า “ผลตรวจชิ้นเนื้อออกแล้ว แต่แบบหยาบ คือ CMV / ไวรัสแอบแฝง จะชอบออกมาทำลายในช่วงที่ภูมิต่ำ ไวรัสนี้สามารถทำลายได้ทั่วร่างกาย แต่นิ้งได้รับโชค โดนที่ลำไส้ใหญ่ ความยาวประมาณ 10 กว่าเซนติเมตร เป็นจุดแผลร้อยกว่าจุด ซึ่งไม่สามารถใช้เลเซอร์จี้รักษา หรือ แม็กได้
เนื่องจากนิ้งไม่สบายมานานพอสมควร (11/7/20 ก็ครบ 1 ปีพอดีค่ะ) ได้ใช้ยาคีโม (เคมีบำบัด) พอใช้ยาไปนานๆ เชื้อโรคแฝงก็จะเข้ามาทำลายร่างกายได้ อาจจะไม่ทุกคน แต่ก็ต้องรอผลจากการนำชิ้นเนื้อไปย้อมสีตรวจให้ละเอียดก่อนค่ะ ถึงจะรู้ผลที่แน่นอน ตอนนี้ก็ต้องนอนให้ยาเข้าทางเส้นเลือดวันละ 2 เวลา ประมาณ 21 วันค่ะ รวมถึงทานยาคีโม และยาอื่นๆเหมือนเดิม
ในช่วงให้ยา ต้องคอยตรวจเลือดเช็คเป็นประจำ เพราะผลข้างเคียงของยา อาจกดไขกระดูก, เม็ดเลือดแดง, เกล็ดเลือด และ เม็ดเลือดขาว (หน้าที่ของเม็ดเลือดขาวจะคอยทำลายเชื้อโรค) และต้องส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพื่อเช็คเชื้อไวรัสอีกครั้ง
ส่วนมากเป็นแค่โรคแทรกซ้อน ส่วนโรคไขกระดูกบกพร่องไม่สร้างเกล็ดเลือด การรักษาเรียบร้อยดี และ คุมอยู่ค่ะ โดยการทานยาคีโม (เคมีบำบัด) วันละ 2 เม็ดทุกวันค่ะ นิ้งขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพ / ใส่หน้ากาก / ล้างมือบ่อยๆ / พกเจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค / เว้นระยะห่างกันและกันนะคะ รัก รัก กอด กอดแน่นๆ
อย่างไรก็ตาม ได้มีแฟนคลับและคนที่ติดตามข่าวของนิ้ง เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก และชื่นชมที่เจ้าตัวยังสู้ด้วยรอยยิ้มที่สดใส แม้ร่างกายจะซูบผอมจากผลข้างเคียงการรักษา เชื่อว่าเจ้าตัวจะต้องกลับมาแข็งแรงและหายเป็นปกติแน่นอน
ขอบคุณ IG : kulsatrees