หลังจากที่มีประเด็นร้อนแรง แต่ทางด้านของ ฌอน บูรณะหิรัญ ยังเงียบไม่มีการเคลื่อนไหว จึงถูกซักถามว่า เขายังอยู่ในประเทศหรือไม่ พล.ต.ท.สมพงษ์ เผยสั้นว่า อาจเป็นไปได้ที่จะออกนอกประเทศ
จากกรณีสุดดร่าม่าของไลฟ์โค้ชชื่อดัง ฌอน บูรณะหิรัญ ที่กำลังเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ หลังจากถูกชาวเน็ตตรวจสอบเรื่องเงินบริจาค โดยให้ออกมาชี้แจง ซึ่งทุกอย่างยังเงียบเลยทำให้หลายๆคนเกิดความสงสัยว่า ฌอน บูรณะหิรัญ ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือไม่
และเมื่อวันที่ 4 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ทางด้านของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เปิดเผยในเบื้องต้นถึงเรื่องดังกล่าวว่า การตรวจสอบข้อมูลล่าสุดนั้นไม่พบว่า ฌอน บูรณะหิรัญ เดินทางผ่านตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด เนื่องจากทุกด่านยังปิดอยู่ โดยได้ควบคุมการเข้าออกนอกประเทศทั้งหมด
แต่ในกรณีที่อาจจะทำการหลบหนีออกนอกประเทศโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่บริเวณชายแดนที่เป็นสถานที่ราชการยังไม่พบข้อมูลการเดินทางของ ฌอน บูรณะหิรัญ แต่อย่าใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผบช.สตม.เผย “ฌอน บูรณะหิรัญ” อาจ “ออกนอกประเทศ” ไปแล้ว !?!
ล่าสุดทางด้านพล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าถึงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) รวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับ นายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่เปิดรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่าดอยสุเทพ แต่จิตอาสาที่เป็นฝ่ายปกครอง ไม่ได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว พร้อมเรียกนายฌอนมาพบ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ว่า เพิ่งทราบเรื่อง แต่ฝ่ายปกครองยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ และไม่ได้ประสานเพื่อให้ดำเนินคดีแต่อย่างใด คาดว่าน่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเข้าแจ้งความคดีดังกล่าว
“คดีของนายฌอน มีผู้เสียหายได้แจ้งความที่กรุงเทพฯ 2-3 รายแล้ว ส่วนเชียงใหม่ ยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดเพิ่ม ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้สั่งการเรื่องดังกล่าว เพราะอยู่ในความรับผิดชอบของส่วนกลางแล้ว โดยเฉพาะตำรวจตรวจคนเข้าคนเมือง (ตม.) ที่ต้องติดตามตัวนายฌอน ผู้ต้องหา หลังมีข่าวหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ส่วนเงินบริจาคที่ผ่านบัญชีนายฌอน จำนวนเงิน 30-50 ล้านบาทนั้น ไม่ทราบมีจริงหรือไม่ เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ไปรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ดังนั้นคดีดังกล่าวที่เชียงใหม่ ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร”
ขณะที่ทางด้านนายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ไม่ทราบเรื่องนายฌอนเปิดรับบริจาค และไม่ได้ประสานกับสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ดังนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้เรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นแล้ว ส่วนตัวไม่เคยรู้จักนายฌอน เพียงทราบว่านายฌอนและทีมงานไปร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม เท่านั้น แต่สำนักป่าไม้ ไม่ได้เป็นผู้เชิญไปร่วมงานดังกล่าวแต่อย่างใด
“ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำงานเต็มที่ แต่ไม่เคยได้รับรายงานว่านายฌอนได้เข้าไปช่วยเหลือดังกล่าว ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ดูแลช่วยเหลือกันเอง อาจมีผู้นำอุปกรณ์ดับไฟและสิ่งของไปมอบให้บ้าง
ส่วนมากไปมอบที่หน่วยดับไฟป่าโดยตรง เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานอย่างเข้มแข็ง อยากฝากขอบคุณผู้บริจาคดังกล่าว ที่สนับสนุนชุดดับไฟป่าจนภารกิจสำเร็จลุล่วง แต่ไม่ประมาท ยังคงเฝ้าระวัง และจัดชุดลาดตระเวน เพื่อป้องกันไฟป่าพื้นที่เสี่ยงอยู่ แม้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว”