จากกรณี คอลัมน์ ข่าวปนคน คนปนข่าว ของผู้จัดการอนไลน์ (https://mgronline.com/politics/detail/9630000024356 ) ได้เขียนเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งพูดถึงนายพิตตินันท์ รักเอียด ก่อนที่จะเชื่อมโยงโดยอ้างถึงนายธงชัย สุวรรณวิหค หรือ สหายช่วง กรรมการสถาบันทิศทางไทย รวมทั้ง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานสถาบันทิศทางไทย ที่เกี่ยวข้องกับนายพิตตินันท์ ซึ่งเป็นการจงใจใส่ร้ายให้นายธงชัยและนายสนธิญาณได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ล่าสุดวันนี้(11มี.ค.63) นายธงชัย ได้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงถึงการกล่าวหาใส่ร้ายจากสื่อในเครือผู้จัดการดังนี้
ผู้จัดการเขียนว่า “เป็นคนของสหายช่วง ธงชัย สุวรรณวิหค”
และสหายช่วงสนิทกับ “ต้อย”สนธิญาณ
จึงเป็นเหตให้ต้อย เป็นคนนำ “เทพ”พิตตินันท์ ไปฝากกับ ร.อ.ธรรมนัส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร
การเขียนข่าวลักษณะนี้ ดูเหมือนจงใจใส่ร้ายต้อย สนธิญาณ หวังสร้างข่าวทำลายชื่อเสียง หรือมุ่งหวังสร้างความเคลือบแคลงสงสัย ให้กับประชาชนโดยทั่วไปว่า ต้อยสนธิญาณกับสหายช่วง ธงชัย สุวรรณวิหค มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับปรากฏการณ์ “กักตุนหาประโยชน์จากหน้ากากอนามัย ที่กำลังฉาวโฉ่อยู่ขณะนี้”
ข้อเท็จริง
ผมรู้จักกับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐเกือบทุกคนในภาคใต้ตอนบน เพราะเคยช่วยงานเป็นวิทยากรบางครั้งในช่วงเลือกตั้ง
แต่การตั้งใจเขียนให้ความหมายว่า “เป็นคนของสหายช่วงและเป็นเหตให้ ต้อยสนธิญาณ เอาไปฝากไว้กับ ร.อ.ธรรมนัส” เป็นการมุ่งใส่ร้าย ทำลายภาพลักษณ์ของต้อย สนธิญาณ เป็นสำคัญ
เพราะต้อย สนธิญาณ เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีบทบาทในสังคม โดยเฉพาะด้านสื่อมวลและผู้จัดการก็เป็นสื่อมวลชน
ผมเห็นว่าต้อย สนธิญาณ ไม่รู้จักผูกพันกับพิตตินันท์และไม่ได้กระทำการนำไปฝากให้เป็นผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร
ผมเห็นว่าเป็นเรื่องตลก มุ่งร้ายต่อต้อยสนธิญาณ จนขาดสติความรับผิดในข้อเท็จจริง เอาแต่มุ่งร้ายผู้อื่นขาดการค้นหาข้อเท็จในการเสนอข่าวต่อสังคม เข้าข่ายพฤติกรรมตอแหลอย่างน่าเกลียด