ม.จ.จุลเจิมสวนปากลูกพระยาพหลฯอ้างคณะราษฏรไม่มีนิรโทษฯ! ระวังโดนถอนหงอก

0

จากที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ออกมาจัดกิจกรรมครอบรอบ88ปีการเปลี่ยนการปกครองของคณะราษฏร ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคนได้พูดด้วยข้อมูลเพียงบางส่วนในประวัติศาสตร์?!?

ขณะที่ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

ระวังจะโดนถอนหงอกเอา

 

ประวัติศาสตร์ที่ท่านเล่า ทำไมเล่าข้าม เล่าไม่หมด เลือกมาเล่าเอาแต่ความดีใส่วงตระกูล ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงให้เข้าเฝ้า 2 ครั้งสำคัญ คุณพ่อของท่านไปเข้าเฝ้าแล้วขอพระราชทานอภัยโทษใช่หรือไม่…….? อย่าเอาประวัติศาสตร์มาบิดเบือน ให้เด็กๆเยาวชน หลงเชื่อเลยครับ สมัยนี้เด็กๆ และเยาวชนเขาไม่โง่กันหรอกครับ เด็กจะถอนหงอกเอา

ความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้น

ขอบคุณ Thepmontri Limpaphayorm

ทั้งนี้เฟซบุ๊กที่ท่านใหม่ ระบุขอบคุณคือ ข้อความที่เข้ามาโพสต์ให้ข้อมูลจาก นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา ซึ่งเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นว่า

ตราพระบรมราชโองการ พระราชกำหนดนิรโทษกรรม ในคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พุทธศักราช ๒๔๗๕พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศจงทราบทั่วกันว่า

การที่คณะราษฎรคณะหนึ่งซึ่งมีความปรารถนาอันแรงกล้าในอันที่จะแก้ไขขจัดความเสื่อมโทรมบางประการของรัฐบาลสยามและชาติไทยให้หายไป แล้วจะพากันจรรโลงสยามรัฐ​และชาติไทยให้เจริญรุ่งเรืองวัฒนาถาวรมั่นคงเท่าเทียมกับชาติและประเทศอื่นต่อไป จึ่งพากันยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินไว้ ด้วยความมุ่งหมายจะให้มีธรรมนูญการปกครองแผ่นดินขึ้นเป็นข้อใหญ่ แล้วร้องขอไปยังเราเพื่อให้เราคงดำรงเป็นกษัตริย์แห่งสยามรัฐต่อไปภายใต้ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินนั้น

ทั้งนี้ แม้ว่าการจะได้เป็นไปโดยขัดกับความพอพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ และขัดใจสมาชิกในรัฐบาลเดิมบางคนก็ดี ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเป็นไปเช่นนั้นในทุกประเทศ ไม่ว่าจะเจริญรุ่งเรืองแล้วเท่าไร ๆ ก็ไม่อาจจะก้าวล่วงการนี้เสียได้ ถึงกระนั้น ก็เพิ่งปรากฏเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกของโลกที่การได้เป็นไปโดยราบรื่นปกติมิได้รุนแรง

และแม้ว่าจะได้อัญเชิญพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการบางคนมาประทับและไว้ในพระที่นั่งอนันตสมาคม ก็เพียงเพื่อประกันภัยของคณะ และเพื่อให้การดำเนินลุล่วงไปได้เท่านั้น หาได้กระทำการประทุษฐร้ายหรือหยาบหยามอย่างใด ๆ และไม่มุ่งหมายจะกระทำเช่นนั้นด้วย ได้แต่บำรุงรับไว้ด้วยดีสมควรแก่พระเกียรติยศทุกประการ

อันที่จริง การปกครองด้วยวิธีมีพระธรรมนูญการปกครองนี้ เราก็ได้ดำริอยู่ก่อนแล้ว ที่ราษฎรคณะนี้กระทำมาเป็นการ​ถูกต้องตามนิยมของเราอยู่ด้วย และด้วยเจตนาดีต่อประเทศชาติอาณาประชาชนแท้ ๆ จะหาการกระทำหรือแต่เพียงเจตนาชั่วร้ายแม้แต่น้อยก็มิได้

เหตุนี้ จึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกำหนดนี้ไว้ดั่งต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกำหนดนี้ให้เรียกว่า “พระราชกำหนดนิรโทษกรรมในคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พุทธศักราช ๒๔๗๕”

มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชกำหนดนี้ตั้งแต่ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระบรมนามาภิธัยเป็นต้นไป

มาตรา ๓ บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นเหล่านั้น ไม่ว่าของบุคคลใด ๆ ในคณะราษฎรนี้ หากว่าจะเป็นการละเมิดบทกฎหมายใด ๆ ก็ดี ห้ามมิให้ถือว่า เป็นการละเมิดกฎหมายเลย

ประกาศมา ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๕

ประชาธิปก ป.ร.

อย่างไรก็ตามข้อความที่ท่านใหม่ แชร์มาก่อนโพสต์ข้อความส่วนตัวลงไปนั้นพบว่ามาจากเฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา ซึ่งได้โพสต์ข้อความ พ.ต.พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา บุตรชาย พระยาพหลพลพยุหเสนา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2560 ที่ระบุข้อความไว้ว่า

ลูกพระยาพหลฯชี้คณะราษฎรไม่นิรโทษฯตัวเอง

วันที่ 24 มิถุนายน ที่อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พรรคใต้เตียง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) จัดเสวนาวิชาการในโอกาสครบรอบ 85 ปี การอภิวัฒน์ 2475 หัวข้อ “ขุดรากถอนโคน โค่นมรดกคณะราษฎร

พ.ต.พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา บุตร พระยาพหลพลพยุหเสนา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่พระยาพหลฯ ได้ร่วมคณะปฏิวัติ ก่อนที่จะกำเนิดเป็นคณะราษฎร ทำให้วันนี้ผมได้ใส่เสื่อติดเหรียญมากหมาย มีเหรียญหมุดคณะราษฎรด้วย ซึ่งของจริงที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน

ถือเป็นความภาคภูมิใจของผมและครอบครัว ที่พ่อของผมและคณะราษฎร นำระบอบประชาธิปไตยมาให้คนไทย และการปฏิวัติในประเทศไทยมีมากี่ครั้งก็ไม่ยอมรับ ผมรับได้ครั้งเดียวคือครั้งที่พ่อผมทำ เพราะครั้งนั้นไม่มีนิรโทษกรรม ถ้าทำไม่สำเร็จก็เจ็ดชั่วโคตร เป็นการเอาชีวิตเข้าแลก กับระบอบประชาธิปไตยให้กับปวงชนชาวไทย

ที่มา : เฟซบุ๊กจุลเจิม ยุคล