จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” โพสต์ข้อความของทีมอาสา “ดับไฟป่าเชียงใหม่” ที่ส่งถึง “ฌอน บูรณะหิรัญ” กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือทีมดับไฟป่า แต่ทีมงานอาสายืนยันว่าไม่เคยได้รับสิ่งของอะไรจากฌอนเลยนั้น
ต่อมาได้มีการเผยหนังสือที่มีการส่งต่อแชร์ในโลกโซเชียลฯ โดยอ้างถึงหนังสือนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจสอบแล้วพบว่า นายฌอน เปิดรับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่านั้น ไม่ได้ยื่นขออนุญาตทำการเรี่ยไรตามพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487
ขณะที่ทางด้านทนายเดชา ได้แสดงความคิดเห็นต่อว่า ไม่ได้ขออนุญาตเรี่ยไรก็โดนไปหนึ่งข้อหาก่อน หลังจากนั้น ถ้าไม่ได้เอาเงินไปใช้ในการดับไฟป่าเอาไปประชาสัมพันธ์ โฆษณาเพจตัวเองก็จะโดนอีกหนึ่งข้อหาเช่น ปกปิดความจริง
– หรือแสดงข้อความเท็จ ซึ่งอาจจะ ถูกแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน
– และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกฎหมาย ที่มีบทลงโทษทางอาญา
– หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของสรรพากรที่ต้องตรวจสอบภาษี เนื่องจากไม่ใช่ลักษณะการบริจาคแบบ 100%
ซึ่งได้รับการยกเว้น
– ถ้ามีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน
ก็จะตามมาอีกหนึ่งข้อหาคือ “ฟอกเงิน” ที่ได้จากการรับบริจาคถ้าสมมุติว่าเอาไปใช้ส่วนตัวก็จะต้องถูกยึด มาตรวจสอบตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป ติดตามกันต่อไปว่าเน็ตไอดอลคนนี้จะไปรอดหรือไม่ทำผิดจริงหรือไม่ แต่ตอนนี้ ติดตามข่าวมันเริ่มจะมีมูลแล้วนะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ทนายเดชา” ซัดเดือด “ฌอน” รับบริจาคไฟป่าไม่ขออนุญาต ผิดแล้ว 1 ข้อหา งัดข้อกม.แจงยิบโทษหนักอื่น ๆ กำลังจะตามมาในไม่ช้า
ล่าสุดนายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือชี้แจง กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุเรื่องการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือในการดับไฟป่าในพื้นที่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ของ ฌอน บูรณะหิรัญ โดยมีเนื้อหาว่า
ตามที่ปรากฏข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์กรณี ฌอน บูรณะหิรัญ เปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือในการดับไฟป่าในพื้นที่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 จนถึง วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นเงิน 875,741.50 บาท ทางอำเภอเมือง ได้ตรวจสอบแล้วว่านายฌอน บูรณะหิรัญ มิได้มายื่นขออนุญาตทำการเรี่ยไร ตามพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แต่อย่างใด
หลังจากนี้ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ จะได้ทำหนังสือแจ้ง นายฌอน บูรณะหิรัญ เพื่อให้เข้ามาให้ปากคำและชี้แจงรายละเอียดของการรับบริจาคเงินจำนวนดังกล่าว เบื้องต้นพบว่ามีความผิด ไม่ได้มายื่นขออนุญาตทำการเรี่ยไร ตามพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มีโทษปรับ
ส่วนจะมีความผิดนอกเหนือจากนี้ต้องขึ้นอยู่กับการชี้แจงนาย นายฌอน ซึ่งอาจจะมีประชาชนที่บริจาคเงินให้กับ นายฌอน เห็นว่านำเงินที่รับบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็อาจจะแจ้งความได้ อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้นายฌอน เข้ามาให้ปากคำก่อนถึงจะสามารถสรุปรายละเอียดได้