“แพท ณปภา” เปิดใจครั้งแรก หลัง “เบนซ์ เรซซิ่ง” อดีตสามีต้องเข้าเรือนจำอีกรอบ ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

0

จากกรณีของ “เบนซ์ เรซซิ่ง”อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช อดีตสามีของดาราชื่อดัง “แพท ณปภา” ที่ล่าสุดถูกจับในข้อหาฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ได้เข้าดำเนินการในที่เกิดเหตุ บนถนนวิภาวดี ก่อนจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง

ต่อมามีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าก่อนเกิดเหตุวันนี้ นายอัครกิตติ์ ซึ่งเคยได้รับการประกันตัวคดีฟอกเงินที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 8 ปี และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท พร้อมการติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม ได้มายื่นคำร้องขอปลดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 ให้เหตุผลว่า ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เพราะต้องทำงานโดยการแข่งรถ กำไลอีเอ็มเป็นอุปสรรคในการใส่ชุดแข่งที่ออกแบบเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะ

อีกทั้งการสวมกำไลทำให้มีอาการเจ็บบริเวณข้อเท้าจากการกดทับที่เป็นระยะเวลานาน รวมทั้งพบว่าตัวเครื่องมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เรื่องชาร์จไฟแบตเตอรี่ ประกอบกับต้องเดินทางออกต่างจังหวัด บางครั้งติดต่อกันหลายอาทิตย์ ซึ่งด้วยข้อบังคับและกฎทำให้ไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ โดยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวต้องใช้เวลานาน แต่หากมีการปลดอุปกรณ์ดังกล่าวแล้วจะทำให้สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางตลอดปีจำนวนมาก

ขณะเดียวกันยังต้องไปศึกษากฎหมายเพิ่มเติมที่ ม.รามคำแหง ส่วนหลักประกันที่ใช้เป็นหลักทรัพย์นั้นมีมูลค่ามากกว่าวงเงินประกันของศาลที่ตีราคาพอสมควร และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาต โดยในวันเดียวกันศาลได้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า นายอัครกิตติ์ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และหลักประกันมีมูลค่าเพียงพอที่จะบังคับคดี หากเกิดกรณีผิดสัญญาประกัน จึงอนุญาตให้ปลดกำไลอีเอ็มโดยให้จำเลยรายงานตัวต่อศาลทุก 2 เดือนแทน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ได้ครบกำหนดการรายงานตัวครั้งล่าสุด แต่ นายอัครกิตติ์ ไม่ได้มาตามนัด โดยวันที่ 25 มิ.ย. ทนายความนายอัครกิตติ์ มายื่นคำร้องต่อศาลมาขอเลื่อนการรายงานตัว ซึ่งยังไม่ปรากฏว่าศาลมีคำสั่งอย่างไร ซึ่งจะต้องติดตามคำสั่งอีกครั้งว่ากรณีดังกล่าวจะเข้าข่ายการผิดเงื่อนไขประกันตัวหรือไม่

โดยนายอัครกิตติ์ กล่าวว่า กรณีหลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ตนและพวกให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อยและพวกตนทุกคนให้การปฏิเสธโดยเฉพาะเรื่องการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอใช้สิทธิ์ไปต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนตัวตนคิดว่าพฤติการณ์ของพวกตนไม่เข้าข่ายการกลับกลุ่มมั่วสุมในที่แออัด ข้อเท็จเรื่องเกิดขึ้น ตนกับน้อง ๆ ออกไปกินหมูกะทะ ทั้ง 6 คนไม่ได้ออกไปพร้อมกัน

แต่กลับทางเดียวกันใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อแยกย้ายกลับบ้าน โดยระหว่างทางไปเจออุบัติเหตุ พวกตนจึงจอดให้การช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเคลียร์ทาง จากนั้นขอตรวจเช็คใบขับขี่ และเขียนใบสั่งตามปกติ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่กล่าวหาว่าพวกตนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงให้การปฏิเสธ พร้อมพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล

ทำให้ศาลอาญา มีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว เบนซ์ เรซซิ่ง โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นายอัครกิตติ์มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ทำให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าข่ายผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการประกันตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมมาคุมตัวนายอัครกิตติ์ไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ถอนประกันตัว “เบนซ์ เรซซิ่ง” ต้องนอนคุก เบี้ยวนัดคดีฟอกเงิน ซ้ำยังฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าตัวลั่นขอสู้ในชั้นศาล

ล่าสุดอดีตภรรยาอย่าง “แพท ณปภา” ได้เปิดใจที่แรกเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวผ่านทางรายการ ตกมันส์บันเทิง ทางช่อง MCOT HD ระบุว่า ไม่ได้คุยกันโดยตรงกับเบนซ์ แต่หลานสาว นาฟ ฉัฐนันท์ โทรศัพท์ไปถามให้ โดยเบนซ์ เล่าว่า ได้ไปกินหมูกระทะที่รังสิตกับเพื่อน ระหว่างขากลับมันเป็นทางคู่ขนาน ที่อีกทางไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขี่เข้าไป ซึ่งขณะวิ่งรถอยู่บนถนนวิภาวดี ได้เจอรถผลไม้คว่ำอยู่จึงจอดดู

เบนซ์ ยืนยันว่า ไม่ได้ชุมนุม จุดเกิดเหตุก็มีตำรวจมาเคลียร์อุบัติเหตุด้วย ก่อนจะโดนเขียนใบสั่ง พอตำรวจรู้ว่าเป็นเบนซ์จึงให้ไปที่สถานีตำรวจ ก็เจออีกข้อหาคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เกี่ยวกับชุมนุม ทำกิจกรรม มั่วสุม ซึ่งไม่เกี่ยวกับเคอร์ฟิว เพราะหมดเขตแล้ว

เมื่อไปที่สถานีตำรวจก็ประกันตัวออกมา 7 คน โดยคนที่โดนข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องไปรายงานตัวในเช้าวันศุกร์ ก่อนเรื่องมันจะใหญ่โต เพราะโดนถอนประกันคดีฟอกเงินที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ทำให้ต้องกลับไปอยู่ที่เรือนจำ โดยวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน นี้ ถึงจะรู้เรื่อง ซึ่งคดีนี้จริง ๆ แล้วตัดสินเดือนสิงหาคม

ส่วนเรื่องใส่กำไลข้อเท้าเพื่อตามตัว ถ้าจะถอดได้ต้องไปขอให้เจ้าหน้าที่ถอดให้ ต้องมีการรายงานตัว ไม่รู้ว่าถอดออกได้ไหม ต้องไปตามดูว่าทำไมถึงไม่ใส่กำไลข้อเท้า

อย่างไรก็ตามแพทกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเบนซ์หายไปเลย จนตนรู้ว่าถอนประกัน โดยสิ่งที่ตนพูดเป็นข้อความที่เขาฝากมาจากหลาน เมื่อถามถึงความรู้สึก ส่วนตัวก็สงสารเขา เพราะคนส่วนหนึ่งก็ด่า แต่ยอมรับว่าถ้าเขาไม่ออกไปก็คงจะไม่เกิดเรื่องขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะออกไป แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนปกติ ท้ายที่สุดก็อยากจะเป็นกำลังใจให้


ข้อมูลจาก : รายการตกมันส์บันเทิง