สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะโอนให้ผู้ถือบัตรเป็นค่าสินค้าในทุก ๆ วันที่ 1 ของเดือนแล้ว นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคม 2563 เงินจะเข้าวันไหนบ้าง จะได้รับวงเงินช่วยเหลืออย่างไรเช็กเลย
วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 1. วงเงินคนละ 200-300 บาท ช่วยเหลือค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัสดุการเกษตร ในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับวงเงินทุกคนและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดและไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
2. ค่าเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ
– ค่ารถโดยสารประจำทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รถเมล์ขสมก.) และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งได้รับเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนในกรุงเทพฯ และ 6 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ นครปฐม
– ค่ารถโดยสาร บขส. (รถทัวร์บขส.) 500 บาทต่อคนต่อเดือน ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิ์ทุกคนและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดยนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประชาชนไปขอรับสิทธิ์ได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วโดยสารบขส.
– ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิ์ทุกคนและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดยสามารถนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประชาชนไปขอรับสิทธิ์ได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟ
3. ส่วนลดค่าซื้อก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน โดยผู้ถือบัตรฯ จะได้รับทุกคน และสามารถใช้สิทธิ์ได้ด้วยการนำบัตรฯ ไปซื้อก๊าซกับร้านค้าที่ร่วมรายการกับกระทรวงพลังงาน ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดและไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
4. ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มปตท. 100 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ เฉพาะผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ประกอบอาชีพหาบเร่หรือแผงลอยไว้ก่อนหน้านี้
วันที่ 15 กรกฎาคม 2563
5. เงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติม สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับวงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 50-100 บาทต่อเดือน สามารถกดออกมาเป็นเงินสดเพื่อนำไปใช้ได้
6.คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เติมเงินเข้าบัตร และใช้เงินจากบัตรรูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่น ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ในเดือนมิถุนายน 2563
วันที่ 18 กรกฎาคม 2563
7. ค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้ได้รับสิทธิ์คือครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์เดือนละ 100 บาท และลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เมื่อบิลค่าน้ำมาผู้ได้สิทธิ์ต้องสำรองจ่ายเงินสดไปก่อน จากนั้นระบบจะทำการบันทึกข้อมูลและทำการโอนเงินสดให้กลับเข้าบัตร ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 และสามารถนำบัตรมากดเงินสดใช้ได้เลย
8. ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ครัวเรือนที่ได้รับสิทธิ์คือ ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดเดือนละ 230 บาท และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เมื่อบิลค่าไฟฟ้ามาต้องสำรองจ่ายเงินสดไปก่อน จากนั้นระบบจะทำการบันทึกข้อมูล และ ทำการโอนเงินสดให้กลับเข้าบัตรในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 และสามารถนำบัตรมาใช้กดเงินสดได้เลย
อย่างไรก็ตาม สำหรับรายการช่วยเหลือที่ยังไม่กำหนดวันมีดังนี้
9. เงินเยียวยาไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการเยียวยาอื่น ๆ ของรัฐบาลมาก่อน จำนวน 1,000 บาท 3 งวด คือ เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 รวมแล้ว 3,000 บาท โดยผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 1,164,222 คน จะได้เงินผ่านบัตรแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม โดยล่าสุด กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้กำหนดวันโอนเงินเข้าบัตรฯ ที่แน่นอน เพราะต้องรอขั้นตอนต่าง ๆ แต่การจ่ายเงินมีความเป็นไปได้ 2 แนวทาง คือ
– โอนเงิน 2 งวดแรก รวม 2,000 บาท เข้าบัตรในเดือนมิถุนายน 2563 และโอนงวดที่ 3 อีก 1,000 บาท ในเดือนกรกฎาคม 2563
– โอนเงินพร้อมกัน 3 งวด รวม 3,000 บาท เข้าบัตรในเดือนกรกฎาคม 2563