WHO ฟันธงยอดติดเชื้อโควิด ในสัปดาห์หน้า พุ่งถึง 10 ล้านราย วิเคราะห์สถานการณ์สหรัฐฯย่ำแย่ ซ้ำเจอข้อมูลจุดระบาดใหญ่ของโลก

0

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ทั่วโลกต้องรับมือหนัก โดยมีรายงานตัวเลขล่าสุดของประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,347,022 ราย และเสียชีวิตมากถึง 121,228 รายแล้วนั้น ต่อมาทางด้านบราซิล ก็มียอดติดเชื้อสะสม อยู่ที่ 1,145,906 ราย และเสียชีวิต 52,645 ราย

รัสเซีย มียอดติดเชื้อสะสม 598,878 ราย และเสียชีวิต 8,349 ราย

อินเดีย มียอดติดเชื้อสะสม 456,183 ราย และเสียชีวิต 14,476 ราย

และสหราชอาณาจักร มียอดติดเชื้อสะสม 307,682 ราย และเสียชีวิต 43,011 ราย

ยึดตามข้อมูล ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2563 เวลา 11.33 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย)

ล่าสุดทางด้านผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส อัดนอม เกเบรเยซุส กล่าวเมื่อวันพุธว่า ยอดติดเชื้อโควิด-19 จะทะยานทะลุ 10 ล้านรายในสัปดาห์หน้าแน่นอน จากที่ตอนนี้ยอดติดเชื้ออยู่ที่ 9.3 ล้านราย และเสียชีวิตเกือบ 4.8 แสนคน ตามข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ในวันพุธที่ 24 มิ.ย.63

ขณะที่ทางด้านดร.ไมค์ ไรอัน หัวหน้าโครงการฉุกเฉินของอนามัยโลก กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในทวีปอเมริกายังไม่ถึงจุดสูงสุด จากที่ตอนนี้หลายประเทศในทวีปอเมริกา มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงระดับ 25-50% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามรายงานของรอยเตอร์

ตอนนี้ลาตินอเมริกาถูกจับตาในฐานะพื้นที่ระบาดใหญ่ของโลก โดยบราซิลครองแชมป์ด้วยยอดติดเชื้อ 1.1 ล้านราย และเสียชีวิต 5.3 หมื่นคน และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 4 หมื่นคน และเสียชีวิต 1,300 คนในวันอังคาร (23 มิ.ย.)เพียงวันเดียว ขณะที่ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร แห่งบราซิล ถูกศาลสั่งให้สวมหน้ากากหากอยู่ตามที่สาธารณะ ถ้าฝ่าฝืนเจอโทษปรับ 400 ดอลลาร์ต่อวัน

ส่วนทางด้านสหรัฐฯ ขยับมาที่อันดับ 1 ของโลกในแง่ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่ยอดติดเชื้อกว่า 2.3 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 1.2 แสนคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสาธารณสุขสหรัฐฯ ยังเคยกล่าวระหว่างการให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ กำลังพ่ายแพ้ให้กับโควิด-19


อย่างไรก็ตามทางด้านนพ.แอนโธนี เฟาชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ขึ้นให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการฯ ยังเชื่อมั่นว่าเราอาจได้เห็นวัคซีนโควิด-19 เร็วที่สุดคือช่วงปลายปีนี้ แต่ย้ำว่าแม้จะมีวัคซีนเกิดขึ้น ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าวัคซีนจะได้ผลหรือสามารถป้องกันโรคได้ในระยะยาวได้