ดร.นิวชำแหละ 88ปี ลัทธิรัฐธรรมนูญ เผด็จการประชาธิปไตยจอมปลอม ฝากถึงคณะก้าวหน้าหยุดใช้วิธีสกปรก

0

ครบรอบ 88ปี 24​ มิถุนายน วันรัฐประหารเปลี่ยนการปกครอง เป็นวันที่คณะราษฎรได้ยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์
มาเป็นของคณะตัวเอง

… มีความเคลื่อนไหวจากทางเฟสบุ๊ค Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือดร.นิวนักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า..#ลัทธิรัฐธรรมนูญ

ดร.นิว-ศุภณัฐ อภิญญาณ

แม้ระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่เราก็ยังตกอยู่ในวังวนของระบอบเผด็จการที่สืบเนื่องมาจากการรัฐประหาร2475ของคณะราษฎร ที่เป็นต้นกำเนิดของลัทธิรัฐธรรมนูญและรากฐานของระบอบเผด็จการในประเทศไทยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

การเปลี่ยนระบอบการปกครองแล้วสร้างรัฐธรรมนูญโดยที่ยังไม่ได้สร้างประชาธิปไตย จึงกลายเป็นปาหี่หลอกคนไทยทั้งประเทศมายาวนานกว่า 88 ปี อีกทั้งทำให้ผู้คนหลงเข้าใจผิดว่ารัฐธรรมนูญเป็นตัวประชาธิปไตย ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญเป็นเพียงแค่เครื่องมือหนึ่งของประชาธิปไตย แต่หาใช่ตัวของประชาธิปไตยไม่ เพราะรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศที่มีได้ในทั้งประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและเผด็จการ

ฉะนั้นการสร้างแต่รัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่ไม่ได้สร้างประชาธิปไตยตัวจริง จึงทำให้คณะราษฎรกลายเป็นคณาธิปไตยที่เป็นเผด็จการเสียเองโดยการแอบอ้างประชาธิปไตยและประชาชนหรือที่เรียกกันว่าราษฎรในสมัยนั้นซึ่งเป็นยี่ห้อที่ดูดีแต่เปลือก แต่ไส้ในกลับเป็นเผด็จการแล้วในที่สุดก็หักหลังประชาชนด้วยการใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์กันภายในหมู่คณะของตนเหนือประชาชนตาดำๆ

ดังนั้นการยึดอำนาจของคณะราษฎรในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 หรือเมื่อ 88 ปีที่แล้วจึงเป็นวันเกิดของลัทธิรัฐธรรมนูญในประเทศไทยที่เป็นลัทธิเผด็จการรูปแบบหนึ่ง และระยะเวลากว่า 88 ปีที่ผ่านมาก็ได้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความล้มเหลวของความเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม นับตั้งแต่ตอนนั้นรัฐธรรมนูญก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเอื้อประโยชน์ให้กับระบอบเผด็จการกลุ่มแล้วกลุ่มเล่านับตั้งแต่คณะราษฎรเป็นต้นมา ด้วยสาเหตุนี้นี่เองที่ประเทศไทยตกอยู่ในห้วงแห่งความขัดแย้งอันเป็นอุปสรรคต่อความรู้รักสามัคคีและการพัฒนาประเทศชาติร่วมกันอย่างสันติมาจนถึงในปัจจุบัน

ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่อย่างโซเชียลมีเดีย ลัทธิรัฐธรรมนูญจึงได้กลับมาก่อตัวขึ้นอีกครั้งในการเคลื่อนไหวโดยอาศัยการปั่นกระแสในโลกโซเชียลทั้งบนดินและใต้ดิน นำโดยคณะก้าวหน้าที่มีความพยายามที่จะสานต่อภารกิจ2475 ด้วยการลูบหน้าปะจมูกแอบอ้างประชาธิปไตยและประชาชนเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง แล้วเสนอตัวเป็นพระเอกผู้ปลดแอกสู้กับเผด็จการรูปแบบอื่นทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน

แต่ในความเป็นจริงแล้วคณะก้าวหน้ากลับเป็นเผด็จการตัวฉกาจในฐานะนักปลุกปั่น (Demagogue) และ นักใช้กฎหมู่ (Ochlocrat) ที่มักชอบอ้างประชาธิปไตยและประชาชนบังหน้าอยู่ตลอดเวลาด้วยความเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด เพราะมีเจตนาในการยัดเยียดความขัดแย้งและความเกลียดชังผ่านแนวคิดแบบหัวรุนแรงให้กับสังคม เห็นได้จากการปั่นกระแสโซเชียลเพื่อปลุกม็อบรายวันหวังหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองอันมีเป้าประสงค์ต่อความรุนแรงเป็นจุดหมาย

จึงไม่น่าแปลกใจที่บรรดาสาวกของลัทธิรัฐธรรมนูญในยุคปัจจุบันอย่างคณะก้าวหน้าจะมีลักษณะพฤติกรรมที่เสื่อมทรามไม่ได้มีความเจริญทางประชาธิปไตย (Democracy) ของผู้ที่เจริญแล้ว หากแต่เป็นประชาธิปไตยแค่ลมปากที่เสื่อมทรามในลักษณะของการใช้กฎหมู่ (Ochlocracy) หรือพูดง่ายๆว่าเป็น การก่อม็อบ (Mob Rule) สนใจแต่สิทธิเสรีภาพของตนเองที่จะทำอะไรก็ได้

แถมยังมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นไปทั่วอย่างเสรีโดยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายและปราศจากมารยาทขั้นพื้นฐานทางสังคม แถมยังมีความเชื่ออย่างบ้าคลั่งต่อการปฏิวัติฝรั่งและรัสเซียที่รุนแรงว่าเป็นทางออกตามแนวทางลัทธิรัฐธรรมนูญอันคับแคบของพวกเขา ในขณะที่เหล่าแกนนำคณะก้าวหน้านั่งควบคุมการปั่นกระแสโซเชียลและยัดเยียดอคติให้กับมวลชนของพวกเขากันอย่างสุขสบายอยู่หน้าจอ แม้คณะก้าวหน้าเชื่อว่าความรุนแรงและการทำลายล้างเป็นทางออก แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีทางออกที่เป็นสันติวิธีอีกมากมายซึ่งอยู่ภายใต้กระบวนการทางกฎหมายและมีความเป็นประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว

นี่คือเหตุผลที่ผมในฐานะประชาชนคนธรรมดาๆคนหนึ่ง ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับลัทธิรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการประชาธิปไตยจอมปลอม เพราะลัทธิรัฐธรรมนูญนี้ได้ขัดขวางกั้นการสร้างประชาธิปไตยตัวจริงมาตลอดระยะเวลาเกือบ 90 ปี อีกทั้งในปัจจุบันสถานการณ์ยังกลับแย่ยิ่งไปกว่าเดิมเพราะมีความพยายามในการยัดเยียดความขัดแย้งและความรุนแรงให้กับสังคมหวังหลอกใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างปราศจากความละอายใดๆ

ท้ายที่สุดนี้ ผมอยากฝากไปถึงคณะก้าวหน้าให้หยุดใช้วิธีการที่สกปรกและความรุนแรงในการสร้างประชาธิปไตย เพราะในความเป็นจริงแล้วผมกับคณะก้าวหน้าต่างก็มีต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีๆขึ้นในประเทศไทยไม่ได้แตกต่างกันเลย แต่ก็อาจะต่างกันตรงที่ผมเชื่อในวิธีการที่ขาวสะอาด อยู่ภายใต้กฎหมายบนพื้นฐานของหลักมนุษยธรรม และสำคัญที่สุดจะต้องใช้สันติวิธี

อีกทั้งต้องไม่ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง แต่ลัทธิรัฐธรรมนูญตั้งแต่คณะราษฎรตลอดมาจนคณะก้าวหน้าและแนวร่วมทั้งบนดินและใต้ดินกลับมีความพยายามในการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด ทั้งๆที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทรงอยู่ในฐานะผู้สร้างประชาธิปไตยและวางรากฐานของประเทศไทยในยุคปัจจุบันมาตั้งแต่ในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5

และผมก็อยากฝากไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นกัน ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศด้วยความปรารถนาดี

ในเมื่อเขาตราหน้าท่านว่าเป็นเผด็จการ แต่ถ้าหากท่านไม่ได้เป็นเผด็จการ และมีเจตนาอันบริสุทธิ์ในการที่จะรวมไทยสร้างชาติอย่างแท้จริง ท่านก็ควรเป็นฝ่ายที่สร้างประชาธิปไตยตัวจริงให้เกิดขึ้นโดยอาศัยทุกองคาพยพของสังคมไทยมาสร้างประชาธิปไตยไปด้วยกัน เพราะถ้าหากท่านทำได้ในท้ายที่สุดท่านจะลงจากเวทีการเมืองในฐานะวีรบุรุษทางการเมืองอีกท่านหนึ่ง แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าท่านไม่สร้างประชาธิปไตย ท่านก็จะพังเหมือนนายกรัฐมนตรีคนอื่นในห้วงที่ผ่านๆมา

ดร.ศุภณัฐ
24 มิถุนายน พ.ศ. 2563
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ

#ลัทธิรัฐธรรมนูญแม้ระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว…

Posted by Suphanat Aphinyan on Tuesday, June 23, 2020